เข้าสู่เดือนเมษาอย่างเต็มตัว และรีวิวตอนนี้จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากครีมกันแดดนั่นเอง
ซึ่งครีมกันแดดตอนนี้จะปกป้องผิวเราจากแสงแดดอย่างเดียวเห็นทีจะไม่พอ
ต้องปกป้องไปถึงแสงสีฟ้าจากจอคอมพิวเตอร์และมือถือ รวมไปถึงมลภาวะ ฝุ่น
อีกด้วย วันนี้อ๊อฟเลยหยิบเอาครีมกันแดดที่อ๊อฟใช้อยู่ทั้งหมด 17 ตัวมารีวิวให้ดูกันค่ะ
Protex เมนทอลแคปซูล คูล บลู ใช้แป้งเย็นมาก็หลากหลายยี่ห้อ
แต่ชอบยี่ห้อนี้ สูตรนี้มากสุดเพราะมันเย็นมากจร้า ทาแล้วเย็นสบายสุดๆ
โบกๆ โปะๆ ลงไปให้ทั่วเหมือนจะชุบแป้งทอด
เย็นสบาย เย็นนาน เหมาะกับอากาศช่วงนี้
Nivea SUN protect & refresh Cooling Sun Mist
ต่อมาเป็นสเปรย์กันแดดของนีเวีย ถึงกับต้องซื้อมาใช้เลยสำหรับหน้าร้อนนี้
นอกจากจะกันแดดได้ดี ซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะผิว ฉีดแล้วยังเย็นผิวอีกด้วย
ปล.ชตรงฉีดแล้วออกแดดได้เลยไม่ต้องรอ
ถ้ายังเย็นไม่พอแนะนำ สเปรย์เย็นตรางู Prickly Heat บอดี้สเปรย์
ที่ฉีดปุ๊บเย็นปั๊บ แถมยังเย็นนานเกือบชั่วโมงอีกด้วย อารมณ์เดียวกัน
กับทาแป้งเย็นตรางูเลยแต่อันนี้เย็นติดตัวนานกว่า
ถ้าฉีดตัวแล้วยังไม่สะใจ สเปรย์เย็นฉีดเสื้อ
Shirt Cool AROMA fragrance Floral Aroma
อันนี้ก็ดีมากเว่อร์ ได้มาใช้ตอนไปตจว. คือช่วยได้เยอะเลย
ระดมฉีดตามเสื้อ ตามใต้รักแร้ พอเหงื่อออกยิ่งเย็น ช่วยดับร้อนได้ดีเลย
Snake Brand Active Cooling Wipe ทิชชู่เย็นตรางู
อันนี้คือดีมากเว่อร์ ใช้เช็ดผิวแล้วเย็นสบายมากก เหมือนอาบน้ำปะแป้งเย็น
มาใหม่ๆ เลย กลิ่นหอมสะอาดสดชื่น เช็ดแล้วยังเย็นผิวไปอีกสักพักใหญ่เลย
โลชั่นกันแดดสูตรเย็น Sunplay Watery Cool Icy Cool SPF 50+ PA+++
ช่วงนี้อะไรเย็นได้ต้องเย็นหมด โลชั่นกันแดดตัวนี้เอามาใช้ทาหน้า ซึมไวใช้ได้
ไม่วอก ไม่เทา แต่แอบมันเล็กน้อย ทาแล้วเย็นผิวนิดหน่อย
ไม่ได้เย็นวาบเหมือนพวกสเปรย์เย็นที่ใช้ฉีดผิว
หลังออกแดดขาดไม่ได้เลยคือพวก After Sun Gel สูตรเย็นของ P.O CARE
ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนของผิวหลังออกแดดได้ดี
เสียดายกลิ่นแรงไปหน่อย แต่ทาแล้วสบายผิวมาก ไม่เหนอะหนะ
ต่อมาเป็นไอเท็มที่เหมาะกับสาวผิวแห้งมากคือ CUTE PRESS Full Night Sleep
OVERNIGHT MASK มาส์กเจลที่มาส์กแล้วเย็นสบายผิวแถมให้ความชุ่มชื้นได้ดี
มากเว่อร์ มาส์กตอนกลางคืนตื่นมาผิวฟู ฉ่ำเด้งสุดๆ เสียดายแอบมีน้ำหอม
หลังจากที่เย็นหน้าเย็นผิวแล้วขอพื้นที่ให้น้องสาวเย็นบ้าง ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เป็นผลิตภัณฑ์ล้างจุดซ่อนเร้น Be Nice Deo Fresh For Sensitive Skin
ซื้อมาเพราะแอบคิดว่ามันจะเย็นมาก แต่แอบผิดหวังนิดหน่อยเพราะมันเย็น
แค่นิดหน่อยเอง 555 เย็นแบบเบาๆ เฟรชๆ สะอาดๆ สดชื่นดี
สุดท้ายเป็นแผ่นอนามัยและผ้าอนามัยสูตรเย็น Sofy Cooling Fresh
อันนี้เย็นของจริง ถ้าคิดไม่ออกว่าเย็นแบบไหน มันเย็นเหมือนอาบน้ำเสร็จ
แล้วเอาแป้งเย็นมาโปะไว้ 555 เย็นแบบนั้นแหละ แต่เย็นแบบสะอาดสดชื่นดีนะ
ยิ่งล้างน้องสาวหลังออกจากห้องน้ำมาแล้วโดนแผ่นอนามัยคือ อื้อหืออออ
ไม่บอกหรอก รู้นะ ต้องเคยลองใช้มาเหมือนกันแหละ
ปกติแล้วกันแดดเป็นสิ่งที่อ๊อฟขาดไม่ได้เลย
เพราะอ๊อฟเป็นคนที่ทำกิจกรรมนอกบ้านบ่อยมากกก กันแดดที่ใช้ทาตัวส่วนมาก
ทาแล้วผิวจะแอบวอก และก็ค่อนข้างเหนียวเหนอะหนะ ไม่สบายผิว หลังๆ
อ๊อฟเลยไม่ค่อยทา สีผิวก็เลยไม่สม่ำเสมอ ทั้งหมองคล้ำ กระดำกระด่าง
ยิ่งเป็นคนที่ใส่นาฬิกาตลอด พอผิวคล้ำขึ้นจะเห็นได้ชัดเลยว่าสีผิวไม่สม่ำเสมอ
แต่อากาศร้อนแบบนี้ จะให้แต่งตัวมิดชิด ไม่ทากันแดด ก็ไม่ไหว
แต่ถ้าจะแต่งตัวแบบโชว์ผิว ก็ต้องเจอทั้งแสงแดดและมลภาวะ
ผิวยิ่งหมอง ยิ่งคล้ำเสียเข้าไปอีก ไม่ขาวจริงจังซะที
แต่ตอนนี้อ๊อฟไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว เย้ๆๆๆ เพราะอ๊อฟมีตัวช่วยสำคัญในการปกป้องและบำรุงผิว นั่นก็คือ Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50+ PA+++กันแดดทาตัวไวท์เทนนิ่ง ขาวกระจ่างใสจริงยืนหนึ่งใน 14 วัน ปกป้องผิวเอาอยู่ทั้งแดดและมลภาวะ ที่สำคัญผิวไม่กลับไปหมองคล้ำอีก !!!!
Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50+ PA+++
- ช่วยปรับผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอจากรังสี UVA1, UVA2 และ UVB แบบ Ultra UV Protection ด้วย SPF50+ PA+++ ให้ผิวแลดูกระจ่างใสใน 14 วัน
- บอกลาผิวแห้งเสีย ช่วยคงความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้กับผิวชั้นนอกด้วย
- มี Anti-Pollution Shield เกราะป้องกันผิวจากมลภาวะ ฝุ่น ควันและสิ่งสกปรกที่จะเข้ามาทำร้ายผิวคุณ
- ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นด้วย Vitamin B3 และสารสกัดจากส้มยูซุ พร้อมบำรุงล้ำลึก ให้ผิวไม่แห้งกร้าน หลังออกแดดด้วย Moisturizing Pack และ น้ำแร่ธรรมชาติจากญี่ปุ่น
- สูตรกันน้ำและกันเหงื่อ เหมาะกับใช้ในชีวิตประจำวัน
เนื้อกันแดดของ Biore UV ตัวนี้เป็นเนื้อเซรั่มที่บางเบามากกก
แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดผิวเวลาทาอีกด้วย
ตัวเนื้อเซรั่ม ค่อนข้างลื่นและเกลี่ยง่าย หลังจากเกลี่ยไม่นาน เนื้อเซรั่มก็ซึมลงสู่ผิวทันที
ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย สบายผิวด้วย อ๊อฟว่าเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรามาก สามารถใช้ได้ทุกวันเลย
เวลาที่ทาลงบนผิวจะรู้สึกได้ว่าผิวบริเวณที่ทาดูสว่างไบรท์ขึ้นระดับนึง แต่ไม่ได้ทำให้ผิววอกหรือลอยนะ
เห็นรอยนาฬิกาที่ข้อมือเค้ามั้ยยย เค้าเชื่อว่าเกือบทุกคนต้องมีรอยแบบนี้
หลังจากลองใช้ไปประมาณ 2 สัปดาห์ รอยนาฬิกาหายไปแล้ว สีผิวสม่ำเสมอขึ้น
สีผิวดูเท่ากัน แล้วก็แอบขาวขึ้นนิดนึงด้วยแหละ
กันแดดควรใช้ทุกวันนะเพื่อปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำ ใครกำลังมองหากันแดดทาตัวแนะนำเลย
Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50+ PA+++
เป็นมากกว่ากันแดดเพราะช่วยปกป้องผิวจากทั้งแดดและมลภาวะ ออกไปข้างนอกทั้งวัน เจอทั้งแดด ทั้งมลภาวะ ฝุ่น ควัน กลับมาบ้านยังรู้สึกว่าผิวก็ยังขาวใสอยู่เลย
แถมมีไวท์เทนนิ่งที่ช่วยให้ผิวเรากระจ่างใส ขาวขึ้นจริงใน 14 วัน ไม่กลับไปคล้ำอีก
อย่าลืมไปหามาใช้กันน้าาา
50 มล. ราคา 129.00 บาท
150 มล. ราคา 290.00 บาท
หาซื้อได้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
เรื่องกลิ่นปากไม่เข้าใครออกใคร และเป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่ละเลยไม่ให้ความสำคัญ
บางคนอาจเคยชินกับกลิ่นปากของตัวเองเลยไม่รู้ว่าตัวเองมีกลิ่นปากไม่พึงประสงค์
รวมไปถึงละเลยการดูแลสุขภาพในช่องปาก ทำให้เสียบุคลิคและขาดความมั่นใจ
ดังนั้นวันนี้อ๊อฟเลยมีตัวช่วยสำคัญ ที่จะช่วยเรียกความมั่นใจของเรากลับมา
นั่นก็คือ ยาสีฟันคอลเกตโททอล® แอดวานส์ เฟรช สูตรปรับปรุงใหม่
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ทางคอลเกตได้เปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์คอลเกตโททอลสูตรเดิมเป็นสูตรปรับปรุงใหม่ซึ่งคอลเกตโททอลสูตรใหม่นั้นสามารถช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียหนึ่งในสาเหตุสำคัญของกลิ่นปาก
ไม่เพียงเฉพาะบริเวณฟันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลิ้น กระพุ้งแก้ม และเหงือกได้ 12 ชั่วโมง*
บางคนสงสัยว่าสูตรเก่าแตกต่างกับสูตรใหม่อย่างไร ยาสีฟันคอลเกตโททอลสูตรปรับปรุงใหม่นั้น
ได้ใส่ประโยชน์เข้าไปมากขึ้นกว่าเดิม!นอกจากจะช่วยลดคราบพลัค
ลดปัญหาสุขภาพเหงือก ลดคราบบนผิวฟัน ลดการเกิดหินปูน และป้องกันฟันผุ
ยังสามารถช่วยลดการเสียวฟันลดการสะสมของแบคทีเรียเพื่อปกป้องผิวฟัน
และยังสามารถปรับสมดุลช่องปาก ช่วยลดกลิ่นปาก พร้อมกับปรับปรุงรสชาติใหม่
ที่ช่วยให้ช่องปากสะอาดและรู้สึกสดชื่นมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
เทคโนโลยีของคอลเกตโททอลสูตรใหม่ใช้ส่วนประกอบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เช่น ซิงค์ และอาร์จินีน ที่ช่วยปกป้องแบบโปรแอคทีฟช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
อย่างที่บอกไปว่าไม่เพียงเฉพาะบริเวณฟันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงลิ้น กระพุ้งแก้ม
และเหงือกอีกด้วย เพื่อให้ช่องปากของเราของแข็งแรงและมีสุขภาพดี
เมื่อบีบยาสีฟันออกมาจะเห็นว่าเป็นแบบเนื้อเจลสีฟ้าตัดขาว
แค่บีบออกมาก็ได้กลิ่นเฟรชๆ รู้สึกได้ถึงความเย็นสดชื่นแล้ว
เนื้อยาสีฟันแบบเจลนั้นเมื่อนำมาวนที่ฝ่ามือจะสัมผัสได้เลยว่าเนื้อเนียนนุ่ม
ไม่จับกันเป็นก้อนหรือเม็ดเล็กๆ
ต่อมาอ๊อฟจะทำการทดสอบว่ายาสีฟันคอลเกตโททอลนั้นผสมแป้งหรือไม่
ซึ่งยาสีฟันบางยี่ห้อในท้องตลาดนั้นมีแป้งผสมอยู่ทำให้ประสิทธิภาพในการแปรงฟัน
หรือดูแลช่องปากลดลง ซึ่งอุปกรณ์ในการทำการทดสอบก็ไม่ยากเลยค่ะ
มีเบตาดีน ยาสีฟันคอลเกต โททอล สูตรปรับปรุงใหม่และน้ำเปล่า
นำยาสีฟันคอลเกต โททอล สูตรปรับปรุงใหม่มาละลายในน้ำเปล่า
หลังจากนั้นหยดเบตาดีนลงไป 3 – 4 หยด และจึงคนให้เข้ากัน
ยาสีฟันที่ไม่ผสมแป้ง น้ำจะไม่เปลี่ยนสี เย้ๆๆๆ มั่นใจได้เลยว่า
ยาสีฟันคอลเกตโททอล® แอดวานส์ เฟรช สูตรปรับปรุงใหม่ของเรา
ประสิทธิภาพอัดแน่นเต็มหลอด
แต่สำหรับคนที่หยดเบตาดีนลงไปมากไปก็ไม่ต้องตกใจไปค่ะ
เพราะมันจะออกมาเป็นสีเหลืองของเบตาดีนแต่จะไม่เปลี่ยนเป็นสีดำหรือสีอื่นๆ
ถ้าเปลี่ยนเป็นสีดำหรือสีอื่นๆนอกเหนือจากนี้แสดงว่า ยาสีฟันผสมแป้งแน่นอน
ย้ำอีกครั้งว่า คอลเกต โททอล สูตรปรับปรุงใหม่ ไม่มีการผสมแป้งแน่นอนค่ะ
ต่อมาเราจะทำการทดสอบความเป็น กรด – ด่าง และความเป็นกลางให้ดูกันค่ะ ซึ่งอุปกรณ์ที่เราต้องมีก็คือ “กระดาษลิตมัส”
กระดาษลิตมัสเป็นกระดาษที่ใช้ทดสอบสมบัติความเป็นกรด-เบส ของของเหลว กระดาษลิตมัสมีสองสีคือสีแดงหรือสีชมพู และสีน้ำเงินหรือสีฟ้า
วิธีใช้คือการสัมผัสของเหลวลงบนกระดาษ ถ้าหากของเหลวมีสภาพเป็นกรด
(pH < 4.5) กระดาษจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีแดง
และในทางกลับกันถ้าของเหลวมีสภาพเป็นเบส (pH > 8.3)
กระดาษจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน ถ้าหากเป็นกลาง (4.5 ≤ pH ≤ 8.3)
กระดาษทั้งสองจะไม่เปลี่ยนสี
และอ๊อฟก็เตรียมน้ำส้มสายชู ยาสีฟันละลายในน้ำเปล่า และน้ำยาล้างมือ
มาทำการทดสอบให้ดูค่ะ
น้ำส้มสายชู ซึ่งเป็นตัวแทนของความเป็นกรด อาหารที่มีกรดจะทำลายเคลือบฟัน
ทำให้ฟันกร่อนหรือบางลง ทำให้ฟันอ่อนแอและเกิดฟันผุได้
น้ำยาล้างมือ ซึ่งเป็นตัวแทนของความเป็นด่าง อาหารหรือผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก
ที่เป็นด่างมากเกินไปก็สามารถทำลายเคลือบฟันได้เช่นกันค่ะ
ต่อมาเราจะทำการทดสอบยาสีฟันคอลเกต โททอลสูตรปรับปรุงใหม่
ด้วยกระดาษลิตมัสทั้งสองสีเลยค่ะ
นำกระดาษลิตมัสทั้งสองสีจุ่มลงไปในน้ำที่มียาสีฟันคอลเกตโททอล® แอดวานส์
เฟรช สูตรปรับปรุงใหม่ใหม่ ละลายอยู่
พอดึงขึ้นมาจะเห็นว่า กระดาษลิตมันทั้ง 2 สี ไม่เปลี่ยนสีเลยทั้งสองอัน
แสดงว่ายาสีฟันคอลเกตโททอล® แอดวานส์ เฟรช สูตรปรับปรุงใหม่นั้น
มีความเป็นกลางไม่กัดกร่อนและทำลายเคลือบฟันแต่เพียงอย่างใด
มาถึงรสชาติของยาสีฟันกันบ้าง รสชาติจะออกหวานนิดๆ ไม่มีรสชาติเค็มเหมือนสูตรเก่า
แปรงแล้วไม่เผ็ดหรือแสบปากจร้าาาให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นและสบายปากมากกก
หลังแปรงรู้สึกได้เลยว่ากลิ่นและลมหายใจสดชื่นขึ้นทันที
ปกติแล้วต้องพูดอย่างไม่อายเลยว่า อ๊อฟก็เคยมีปัญหาเรื่องกลิ่นปากค่ะ ไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีกลิ่นปาก
จนแฟนเริ่มมาบอกและชอบไล่ให้ไปแปรงฟัน ซึ่งอ๊อฟก็แปรงบ่อยและแปรงนานมาก
พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ
ใช้ทั้งไหมขัดฟัน น้ำยาบ้วนปาก แต่ก็ยังมีกลิ่นเล็ดลอดออกมา
หลังจากได้ทดลองใช้ ยาสีฟันคอลเกตโททอล® แอดวานส์ เฟรช สูตรปรับปรุงใหม่
เป็นเวลา 14 วัน ขึ้นไป ช่วงอาทิตย์แรกก็รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงเลยว่ากลิ่นปากเริ่มลดลง
แฟนไม่ค่อยทักว่ามีกลิ่นปากแล้ว มั่นใจในการพูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น
ไม่ต้องคอยอมลูกอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่ง
ส่วนเรื่องความขาวขึ้นนั้น สำหรับอ๊อฟว่ามันขาวและสว่างขึ้นนิดหน่อย ไม่ได้ขาวจั๊วะเหมือนเวลาเราไปฟอกฟันที่คลีนิค
จะสังเกตุได้ชัดเลยก็ตอนแต่งหน้า ทาลิปสติกสีแดงแล้ว
ฟันไม่เหลืองจ้าาาา แฮปปี้สุดๆ นี่สินะที่เรียกว่า “ขาวใสแบบธรรมชาติ”
สรุปเลยแล้วกันเนอะ ยาสีฟันคอลเกตโททอล® แอดวานส์ เฟรช สูตรปรับปรุงใหม่นั้น
ถ้าให้ 5 คะแนนเต็มอ๊อฟขอให้ 4.5 เลยละกันคือจริงๆ ก็ชอบทั้งหมดแหละเพราะนอกจากแพคเกจของผลิตภัณฑ์
ที่ทำออกมาให้ดูน่าใช้แล้ว เรื่องของประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันก็ดีมากด้วย
จุดเด่นที่อ๊อฟชอบจริงจังเลยก็คือ เรื่องของกลิ่นปากที่ลดลงอย่างชัดเจนมาก ถ้าเป็นไปได้อยากให้ช่วย
ลดการสะสมของแบคทีเรียสาเหตุของการเกิดกลิ่นปากให้ถึง 24 ชม. เลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า จะดีมากกก
สำหรับคนที่ยังไม่เคยลองสูตรใหม่ สูตรเก่าว่าดีแล้ว สูตรใหม่ดีกว่าเดิมไปอี๊กกก…..อยากให้เธอได้ลอง
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าอากาศบ้านเรามันร้อนจริงๆ
ร้อนถึงขนาดที่ว่าแค่ก้าวออกจากบ้านเมคอัพก็จะละลายแล้ว
และสิ่งที่สาวๆ อย่างเราจะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ “สเปรย์น้ำแร่”
ที่จะช่วยให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น ให้ความชุ่มชื้นสบายผิว
นอกจากจะช่วยบำรุงและลดการระคายเคืองแล้ว ยังต้องช่วยล็อค
เมคอัพให้อยู่นานๆ อีกด้วย วันนี้อ๊อฟเลยจะมารีวิวสเปรย์น้ำแร่
ทั้งหมดที่เคยใช้มา เดี๋ยวเรามาดูกันว่าตัวไหนควรมีติดกระเป๋าไว้
หลายคนคงคุ้นเคยกับแบรนด์นี้อยู่แล้ว ซึ่งสเปรย์น้ำแร่ที่ผลิตออกมาก็คือน้ำแร่จริงๆ แบบเดียวกับแบบดื่มเลย ถ้าใครชอบดื่มน้ำแร่อยู่แล้ว เอาตัวนี้มาฉีดหน้าก็จะรู้สึกได้แค่ความสดชื่น และความชุ่มชื่นของผิวนิดหน่อย
แต่ไม่ได้ช่วยให้เมคอัพติดทนนานมากเท่าไร
เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าสมูทอีก็มีสเปรย์น้ำแร่กับเค้าด้วย ตัวนี้ทำได้ดีเกินคาดเพราะนอกจะให้ความชุ่มชื้นกับผิว
ได้ดีมากแล้ว ตัวนี้ฉีดบ่อยๆ ผิวยิ่งใส หน้ายิ่งเนียน รูขุมขนกระชับขึ้นอีกด้วย
ใครที่ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำตัวนี้ความเข้มข้นสูงมากเพราะเป็นไฮยารูลอนที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว เป็นสเปรย์น้ำแร่ที่มีละอองน้ำอนุภาคไมโคร พอลองฉีดแล้วรู้เลยว่าละอองละเอียดมาก ผ่านไปหลายชั่วโมงหน้าก็ยังชุ่มชื้นอยู่
แต่ไม่ได้มากเหมือนตอนฉีดใหม่ๆ นะคะ โดยรวมคือดีงาม
น้ำแร่ตัวนี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญถึง 15 ชนิด ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการผิวแห้ง แสบแดง คันได้ค่อนข้างดี เวลาอากาศร้อนๆ ฉีดแล้วเย็นสบายผิวดีมาก เรื่องทำให้เครื่องสำอางติดทนยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่
หนักไปเรื่องความลดการอักเสบของผิวมากกว่า
จุดเด่นของตัวนี้ อ๊อฟให้เรื่องบรรเทาการแพ้ ผดผื่น การระคายเคืองและอักเสบของผิว เพราะเค้ามีแร่ธาตุซิลิเนียม นอกจากจะฉีดให้สดชื่นแล้ว เวลาแสบหน้าเนื่องจากตากแดดนานๆ ตัวนี้ทำได้ดีเลย สดชื่นเย็นสบายผิวมาก
ตัวนี้เป็นสเปรย์น้ำแร่ที่ฉีดแล้วฟินมากกกกก เพราะละอองสเปรย์ละเอียดแบบสุดๆ ไปเลย
ฉีดแล้วชุ่มชื่นผิวดีมากกก ผิวแห้งผิวแพ้ง่ายตัวนี้ใช้ได้ดีเลย
ตัวนี้ชอบถึงต้องมีทั้งขวดเล็กขวดใหญ่ติดไว้เพราะฉีดแล้วสดชื่นมากกก ละอองที่ฉีดออกมาก็ละเอียด
เวลาผิวอักเสบมาฉีดตัวนี้บรรเทาอาการได้ดีมาก ฉีดแล้วเมคอัพไม่ไหลเยิ้ม
เหมือนเป็นสเปรย์น้ำแร่เอนกประสงค์ยังไงยังงั้น
สเปรย์น้ำแร่ธรรมชาติ 100% ที่เหมือนกับเอเวียง แต่จุดเด่นของตัวนี้คือน้ำแร่ที่พ่นออกมาละเอียดมากกก เมื่อสเปรย์ทับเครื่องสำอาง ละอองที่ละเอียดมากๆ จะกระจายบนใบหน้าได้อย่างทั่วถึงโดยที่ไม่จับตัวเป็นหยดน้ำ
ขนาดใหญ่ เวลาที่เราทาแป้งก็จะไม่เป็นคราบ และละอองละเอียดก็ได้ดีขึ้นด้วย
ถ้าใครเคยใช้เจลว่างหางจระเข้ของแบรนด์นี้ อยากจะบอกว่าเค้ามีสเปรย์น้ำแร่แล้วนะ แถมทำออกมาได้ดีด้วย เหมาะกับอากาศร้อนๆ อย่างบ้านเรามาก เพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ที่ช่วยลดอาการแสบร้อนของผิว
เวลาโดนแดดได้ แถมยังให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดีอีกด้วย
จุดเด่นของสเปรย์น้ำแร่ตัวนี้อ๊อฟว่าเด่นในเรื่องช่วยให้เมคอัพเซตติดทนได้ดีขึ้นมากกว่าการบำรุง
และให้ความชุ่มชื้นกับผิว ฉีดแล้วเมคอัพไม่ไหลเยิ้ม แถมราคาและแพคเกจก็ยังน่ารักอีกด้วย
ปกติชอบอะไรที่เป็นส่วนผสมนมๆ เคยใช้ครีมอาบน้ำกับโลชั่นแล้วชอบมาก เลยไปซื้อสเปรย์น้ำแร่ของ Beauty Buffet มาลองดู ละอองสเปรย์ค่อนข้างใหญ่เลยไม่ประทับใจเท่าไหร่ เอาไว้ฉีดก่อนแต่งหน้าเป็นบางครั้งบางคราว
โอกุม่าสเปรย์น้ำแร่อันโด่งดัง แบรนด์นี้โด่งดังมากเพราะสรรพคุณเค้าเยอะเหลือเกิน แต่ก่อนใช้บ่อยมาก เพราะใช้แล้วดีจริง แต่เดี๋ยวนี้ใช้น้อยลงเพราะมีตัวอื่นน่าใช้มากกว่าและที่สำคัญราคาของแบรนด์อื่นถูกกว่าเยอะเลย
สุดท้ายเป็นสเปรย์น้ำแร่ที่ให้ความสดชื่นได้ดีอีกตัวเพราะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ดีมาก แต่คนที่ผิวมันอาจจะไม่ชอบเพราะตัวนี้ฉีดแล้วจะเหนอะๆ ผิวนิดนึงเนื่องจากมันเป็นเจลว่านหางจระเข้ที่มาในรูปแบบสเปรย์ แต่ถ้าคนผิวแห้งฉีดแล้วน่าจะชอบเพราะเวลาฉีดผิวจะดูฉ่ำๆ
สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟมีข่าวดีสำหรับคนผิวแห้งถึงแห้งมาก ต้องบอกก่อนว่าดีใจมว๊ากกก
เพราะตอนนี้ CeraVe มีขายที่ไทยแล้ว สมัยก่อนถ้าจะซื้อต้องพรีออเดอร์หรือฝากเพื่อนหิ้วมาจากอเมริกา
ซึ่งราคาก็ไม่ถูกเลย พอเห็นว่าทางพันทิปมีกิจกรรมดีๆ กับทาง CeraVe อ๊อฟเลยเข้าร่วมอย่างไม่ลังเล
เพราะจะได้บอกกับคนที่มีปัญหาผิวแห้งถึงผิวแห้งมากหรือผิวอ่อนแอ
ผิวเซนซิทีฟง่ายเหมือนอ๊อฟได้รู้จักแบรนด์ดีๆ ไว้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลผิว
CeraVe เป็นแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นมาโดยแพทย์ผิวหนังชั้นนำของอเมริกา
ซึ่งเน้นในเรื่องการบำรุงและเสริมความแข็งแรงรวมไปถึงการปกป้องผิว
ด้วยส่วนผสมของเซราไมด์สำคัญถึง 3 ชนิด และไขมันจำเป็นอื่นๆ
ควบคู่ไปกับเทคโนโลยี MVE ซึ่ง MVE หรือ Multivesicular emulsion เป็นเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์เลือกใช้
ในการนำส่งสารบำรุงเข้าสู่ผิวลักษณะจะเป็นรูปทรงกลมเป็นชั้นๆ ตามภาพ เวลาลงผิวก็จะค่อยๆ แตกตัว
และปล่อยสารบำรุงออกมาทีละชั้นอย่างช้าๆ นานๆทำให้สารเพิ่มความชุ่มชื้นต่างๆ อยู่ในผิว
ของเราได้ยาวนานมากขึ้น
ข้อดีอย่างหนึ่งของ CeraVe คือการใช้ Ceramide ทั้ง 3 ชนิด คือ Ceramide 1, Ceramide 3
และ Ceramide 6-II ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อเป็นเสริมการฟื้นฟู Barrier ผิวของเราได้อย่างลงตัว
และผลิตภัณฑ์ที่อ๊อฟคิดว่าเป็นตัวเด็ดตัวดังของแบรนด์ CeraVe เลยก็คือ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมอยเจอไรซ์เซอร์
เนื้อครีมและเนื้อโลชั่นที่สามารถทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายในราคาที่เราสามารถจับต้องได้
นั่นก็คือ CeraVe Moisturising Lotion For Dry to Very Dry Skin
ที่วันนี้อ๊อฟจะมารีวิวอย่างละเอียดให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ
CeraVe Moisturising Lotion For Dry to Very Dry Skin เป็นตัว Moisturizing lotion
ที่มาในรูปแบบเนื้อโลชั่นมี 2 ขนาด คือ ขนาดเล็ก 88 ml และขนาดใหญ่ 473 ml ซึ่งวันนี้ที่อ๊อฟจะมารีวิว
คือขนาดเล็ก 88 ml ค่ะ ลักษณะเนื้อโลชั่นเป็นสีขาว ซึ่งอ๊อฟจะบอกว่ามันเหมาะกับสภาพอากาศ
ของบ้านเรามากเพราะทาแล้วมันไม่เหนียวเหนอะหนะผิวเลย
เป็นเนื้อโลชั่นที่มีความเข้มข้นแต่เนื้อบางเบา ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ
ให้กับผิวเวลาทาจะไม่รู้สึกลื่นหรือเหนียวเหนอะหนะผิวเลยแม้แต่น้อย
สามารถที่จะเคลือบและเก็บกักความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
เป็นเหมือน Barrier อยู่บนผิว ไม่ถูกล้างออกไปโดยง่ายเมื่อโดนน้ำ
ก่อนที่จะไปดูผลลัพธ์ อ๊อฟอยากให้เห็นถึงสภาพผิวของอ๊อฟก่อน เห็นแล้วอย่าเพิ่งตกใจกันน้าาา
ต้องบอกก่อนเลยว่า อ๊อฟเป็นคนที่ผิวแห้งถึงแห้งมากที่สุดโดยเฉพาะบริเวณขา
เรียกได้ว่าแห้งแตกเป็นเกล็ดเป็นขุยเลย ไม่ว่าจะทาโลชั่นหรือทาออยล์ตัวไหนก็เอาไม่อยู่
ยิ่งถ้าหน้าหนาวไม่ต้องพูดถึงแตกจนเลือดออกซิบๆ เลย แถมที่นอนยังเต็มไปด้วยขุยขาวเลอะเทอะไปหมด T.T
ซึ่งวิธีการใช้โลชั่นก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ส่วนตัวอ๊อฟเป็นคนที่ผิวบริเวณขาแห้งมาก
ดังนั้นอ๊อฟจะเน้นช่วงขามากกว่าส่วนอื่นค่ะ ซึ่งปริมาณการทาก็ปกติเลย ไม่ได้ต้องใช้เยอะมากกว่าเดิม
เพราะโลชั่นเค้ามีความเข้มข้นและประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน
หลังจากที่อ๊อฟได้ใช้ CeraVe Moisturising Lotion จะเห็นได้ว่าผิวแห้งแตกและเป็นขุยหายไปแล้ว
หลังจากที่ทาโลชั่นเข้าไปผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย ซึ่งปกติเวลาอ๊อฟทาโลชั่นสักพัก
ผ่านไป 2-3 ชม. ต้องกลับมาทาซ้ำเพราะผิวจะกลับมาแห้งและแตกเหมือนเดิม แต่ CeraVe Moisturising Lotion
ไม่ต้องกลับมาทาซ้ำเลย หลังผ่านไป 24 ชม. ผิวยังคงชุ่มชื้นอยู่ ลูบไปก็ไม่มีขุยขาวๆ
ซึ่งอ๊อฟใช้โลชั่นตัวนี้เดี่ยวๆ เลย ไม่ได้ทาออยล์หรือทาครีมตัวอื่นเพิ่ม
คราวนี้มาดูกันว่าใช้ CeraVe Moisturising Lotion ต่อเนื่อง 1 อาทิตย์แล้วเป็นยังไงบ้าง
ฮือออออ….จะบอกว่าผิวดีขึ้นจากครั้งแรกมากเลย ทาไปแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น ผิวก็เนียนเรียบขึ้น ชุ่มชื่นมากขึ้น
ไม่แห้งแตกและเป็นขุยเหมือนแต่ก่อนแล้วดีต่อใจสำหรับคนผิวแห้งถึงแห้งมากที่สุดอย่างอ๊อฟมากจริงๆ
สรุปก่อนใช้และหลังใช้ CeraVe Moisturising Lotion จะบอกว่าอ๊อฟประทับใจมาก
จากที่เคยใส่แต่กางเกง กระโปรงขายาวเพราะอายที่ขาแห้งแตกเป็นขุย ตอนนี้พอได้มาใช้เซราวีทำให้อ๊อฟมั่นใจ
ที่กล้าโชว์และเผยผิวมากขึ้นกว่าเดิมมากเพราะใช้แล้วผิวชุ่มชื่นขึ้นกว่าเก่ามาก ยิ่งใช้เป็นประจำทำให้เห็นชัดเลย
ว่าผิวแข็งแรงขึ้น เรียกได้ว่าชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชม. จริงๆที่สำคัญนอกจากจะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
แล้วเหตุผลหลักที่อ๊อฟคิดว่ามีผลต่อการตัดสินใจอีกอย่างก็คือเนื้อโลชั่นสัมผัสดีงามมากกกก
ไม่เหนียวเหนอะหนะและอ่อนโยนต่อผิว เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ อย่างบ้านเรามาก
สุดท้ายท้ายสุด สำหรับใครที่มองหาสกินแคร์คุณภาพดี ราคาน่ารัก อ๊อฟอยากฝาก CeraVe ไว้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์
อยากให้ลองใช้กัน ลองไซส์เล็กแล้วจะติดใจอยากวิ่งไปซื้อไซส์ใหญ่ สำหรับเพื่อนๆ ที่ผิวแห้งเหมือนอ๊อฟ
บอกเลยว่าตัวนี้มันเวิร์คมาก ซื้อไปไม่เสียดายสะตุ้งสตางค์แน่นอน
หาซื้อได้ที่ Watsons, Boots, Eveandboy, Beautrium, ร้านขายยา
และโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไป ช้อปออนไลน์ทาง @Lazada ก็มีน้าาาา
มาทันเวลาแบบฉิวเฉียดเฉียดฉิวพอดี เห็นสีแดงๆ แบบนี้จะเป็นเทศกาลอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ตรุษจีน” นั่นเอง
และแน่นอนว่าตรุษจีนปีนี้หรือปีไหนๆ ก็หนีไม่พ้นลิปสติกสีแดง แต่ลิปสติกสีแดงไม่ได้มีกันแค่เฉดเดียวเนอะ
มันมีมากมายหลายเฉด ประมาณ 20 เฉดสีเลยทีเดียว
วันนี้อ๊อฟเลยรวบรวมเอาลิปสติกสีแดงที่แตกต่างกันหลายๆ เฉด ที่คิดว่าใกล้เคียงกับชาร์ตมาสวอชให้ดู
แต่ก่อนที่จะไปดูสวอชลิปสติกทั้งหมดนี้อ๊อฟเลือกและคัดมาแล้วว่ามันดี มันโอเค แต่ไม่ได้เรียงลำดับ
จากความชอบนะคะ โดยทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอ๊อฟทั้งหมดน้าาา
ถ้าสวอชแล้วสีไม่ตรงสีเพี๊ยนยังไงต้องกราบขออภัยมา ณ กระทู้นี้ด้วยค่ะ
อ๊อฟพยายามจัดแสงปรับค่าเควินให้ตรงกับที่ตาเราเห็น
จากแท่งลิปสติกที่สุด ดังนั้นพร้อมแล้ว ไปดูกันเล๊ยยยยย
NYX SOFT MATTE LIP SMLC01 สี Amsterdam ราคา 250 บาท
ลิปสติกสีแดงเจือส้มเนื้อแมทท์ เนื้อครีม นุ่มกลิ่นหอมเหมือนขนม ทาแล้วไม่แห้งด้าน
ติดทนนานพอสมควร เนื้อลิปเนียนนุ่ม เกลี่ยง่ายมว๊ากกกก เม็ดสีแน่นสุดๆ กลบสีปากได้ 100 %
Bisous Bisous LOVE YOU CHERIE CRD07 – Lustrous ราคา 595 บาท
เป็นลิปสติกเนื้อครีมสีแดงเจือสีน้ำตาลหน่อยๆ เม็ดสีชัดมากทาเพียงรอบเดียวก็สามารถกลบริมฝีปากได้เลย
ตัวนี้พอทาออกมาแล้วไม่แมทท์ออกจะครีมมี่มากกว่าติดทนในระดับนึง
กินอะไรก็มีหลุดบ้างแต่เติมแล้วไม่เป็นคราบ
THE BALM Meet Matt(e) Hughes สี Adoring ราคา 950 บาท
เป็นลิปลิขวิดเนื้อแมทท์ที่เนื้อดีทาแล้วสวยมาก เป็นสีแดงเข้มอมน้ำตาล มีกลิ่นมินท์ทาแล้วเย็นๆ
หัวแปรงของลิปคือดีมากกก เวลาทาจะบิดรับกับรูปริมฝีปากของเราได้ดีกว่าแปรงที่หัวแข็งๆ
ทำให้ทาลิปง่ายกว่าแปรงทั่วๆไป ติดทนนานมาก ทาแล้วไม่หนักริมฝีปาก
L’OREAL Rouge Magique สี 901 THE FORT ราคา 349 บาท
ลิปสติกเนื้อ Comfort Matte สี 901 Thé Fort สีน้ำตาลดาร์คฮอตช๊อคโกแลต สีสวย เม็ดสีชัดเจนดี
เนื้อลิปสติกนุ่มทาออกมาแล้วไม่แมทท์มาก มีความชุ่มฉ่ำและวาวๆอยู่ แต่ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่
WET N WIDE-MEGA LAST LIP สี Red Velvet 139 บาท
ลิปสติกในตำนานเชื่อว่าสาวๆ ต้องมียี่ห้อนี้ติดกระเป๋ากันแทบจะทุกคน
สีนี้จะแดงอมชมพูนิดๆราคา ทาแล้วกลบสีปากได้ดี เนื้อลิปสติกทาง่าย ติดทนนานมากกกกก
Mamonde Creamy Tint Squeeze Lip สี No.3 Chic red ราคา 450 บาท
ลิขวิดลิปสติกในรูปแบบทรงแท่งหลอดบีบเป็นลิปสติกเนื้อแมทท์กึ่งกำมะหยี่
เป็นแดงอมส้มๆ ที่สวยมาก เนื้อไม่แห้งแบบรุ่นเก่าๆ ติดทนกลางๆ มีกลิ่นกุหลาบ
เม็ดสีแน่นมาก จะทาเต็มๆ ริมฝีปากหรือใช้นิ้วเกลี่ยให้ขอบปากเบลอๆ ก็สวย
YSL TATOUAGE COUTOUR MATTE STAIN #1 ราคา 1,550 บาท
เป็นลิปจิ้มจุ่มที่หรูหรามาก เนื้อลิปคือดีงามทาง่าย เป็นเนื้อบางๆ จะทาแบบเบาๆ หรือบิ๊วท์ให้สีแน่นขึ้นก็ได้
เพียงแค่ทาซ้ำหลายๆ รอบ หัวแปรงทรงพิเศษทารับกับขอบปากได้ดีเว่อร์ เป็นลิปจิ้มจุ่มที่ไม่ได้เนื้อหนาหนักปาก
อารมณ์จะคล้ายทิ้นท์แต่หนากว่า นางคือ lip stain ที่ทาแล้วผู้ดี๊…ผู้ดี
Dior Rouge Dior #999 ราคา 1,400 บาท
เป็นลิปสติกสีแดงคูลโทนที่สวยมากอีกหนึ่งสี เนื้อลิปมีความฉ่ำหน่อยๆ เนื้อลิปเนียนนุ่มเกลี่ยง่ายมาก
ทาแล้วสวยไม่หนักปาก กลบสีปากมิด ชอบในความชุ่มชื่นของ Lip Dior ไม่ทำให้ปากแห้ง
ไม่เป็นคราบไม่ตกร่อง แต่สีอาจจะติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่
MAC MATTE CARMINE ROUGE #A96 ราคา 880 บาท
ลิปสติกทรงกระสุนสุดคลาสสิค เป็นเนื้อแมทท์ที่มีความแดงอมชมพูที่ทาแล้วไม่แมทท์แห้ง
มีความเบาสบายปากอยู่ เม็ดสีค่อนข้างชัดทาออกมาก็ได้สีตามแท่งเลย
ไม่เป็นคราบไม่ตกร่อง และติดทนนานพอสมควร
L’OREAL สี R514 PEARLY RUBIE FOLLIE ราคา 200 บาท
ตัวนี้เป็นลิปสติกเนื้อ Matte ทีชุ่มชื้นมาก…ชุ่มชื้นมากจริงๆเม็ดสีแน่น สีชัดมาก
ปาดครั้งเดียวสามารถกลบสีริมฝีปากจริงของเราได้เลย
เนื้อลิปสติกเนียนนุ่มเกลี่ยง่าย ทาแล้วทำให้ปากเราดูฉ่ำและอวบอิ่มขึ้น
Lancome Juicy Shaker CHERRY STMPHONY #151 ราคา 990 บาท
ลิปสติกรุ่นนี้ของลังโคมเค้าเป็นลิปสติกสูตรน้ำที่ผสมระหว่างเม็ดสีและออยล์บำรุงริมฝีปาก
เอกลักษณ์ของลิปรุ่นนี้คือต้องเขย่าก่อนทา อารมณ์จะออกมาเป็นกลอสเลย แต่เป็นกลอสที่ทาแล้วสวยมาก
มีความฉ่ำและสามารถไล่ระดับเลเยอร์ในการทาได้
COSLUXE CURVE LIPSTICK สี #TAYLOR RED ราคา 299 บาท
ลิปสติกแบรนด์ไทยถูกและดีต้องยกให้ Cosluxe ความพิเศษของลิปสติกตัวนี้จะมีหัวตัดเป็น curve เข้าทรง
พอดีกับรูปปากทำให้ทาได้ง่าย เนื้อลิปสติกสีชัดมากสามารถกลบสีปากเดิมของเราได้มิดเลย
และไม่ได้เป็นลิปสติกเนื้อแมทท์ที่แห้งจนเกินไปแต่ก็ไม่ใช่เนื้อมอยส์ที่ชุ่มฉ่ำจนเกินเหตุ
ที่สำคัญมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย ติดทนนานพอสมควร
MILLE LITTLE PONY WONDERFUL LIP COLOR #RARITY 06 ราคา 495 บาท
ลิปสติกเนื้อซาตินจากมิลเล่มาในแพคเกจน่าย๊ากกก มีความ little pony เป็นลิปสติกสีแดงที่ออกไปทางสีอิฐ
เม็ดสีค่อนข้างแน่น ปิดร่องปากสนิท ทาแล้วไม่หนึบปากทาซ้ำก็ไม่เป็นคราบและไม่แห้งเป็นขุย
ที่สำคัญติดทนนานอีกด้วย
CLINIQUE chubby plump & shine 02 super scaret ราคา 800 บาท
เป็นลิปกลอสแบบหมุนที่ทาออกมาแล้วสวยฉ่ำมาก เป็นสีแดงระเรื่อๆ ทาแล้วริมฝีปากดูอวบอิ่ม
เหมาะกับใช้ระหว่างวันได้ปากแบบอิ่มๆ สุขภาพดี
NYX Mat Rouge a Levres MLS10 #PERFECT RED ROUGE PARFAIT ราคา 220 บาท
เป็นลิปสติกสีแดงสดที่เม็ดสีแน่นชัดมากกก ทาออกมาแล้วฟันขาว ฟินิชลุคออกมาไม่แมทท์มาก
เนื้อลิปสติกเนียนนุ่มทาค่อนข้างง่าย ติดทนนานมากกกก มีสักแท่งจะติดใจ
Dior Addict LACOUER STICK 757 AMERICAN GIRL ราคา 1,450 บาท
เป็นลิปรุ่นยอดฮิตของ Dior ที่มีความพิเศษคือเป็นเหมือนแลคเกอร์ทาออกมาแล้วเงาๆ ฉ่ำๆ
เป็นสีแดงที่ทาออกมาแล้วสวยมากกกทาแล้วเด่นสุด เป็นลิปที่มีลักษณะคล้ายลิควิดแต่ไม่เยิ้ม
เนื้อจะออกมันวาวเป็นประกายชายนี่ ทาแล้วให้ความรู้สึกฉ่ำๆ ระเรื่อๆ เม็ดสีค่อนข้างแน่น
Giorgio Armani Lip Maestro #405 ราคา 1,400 บาท
เป็นลิปจิ้มจุ่มเนื้อกำมะหยี่ สีแดงอมส้มด้วยเนื้อลิปสติกฟีลแบบกำมะหยี่ออกจะครีมมี่ด้วยซ้ำ
เลยทำให้สบาย ทาแล้วไม่หนักปากแถมจุ่มเพียงครั้งเดียวก็ทาได้ทั่วปาก สีแน่นติดทนระดับนึง
Dior Rouge Dior LIQUID 999 MATTE ราคา 1,450 บาท
Liquid Rock Matte สีแมตต์ 999 Matte คือเฉดสี It-Shade เป็นลิปสติกสีแดงที่แดงจริงๆ
เนื้อครีมข้นหลังทาแล้วให้ลุคฟินิชแมทท์แต่ทาแล้วไม่หนักปากเนื้อสีเด่นชัด กลบสีปากมิด
จะทาแบบเกลี่ยๆ ก็สวยหรือจะทาแบบ full lip ก็สวยเหมือนกัน
GIRLACTIK BEAUTY Matte Lip Paint สี Iconic ราคา 850 บาท
เป็นลิปจิ้มจุ่มสีแดงสดอมส้มเพียงเล็กน้อย แต่ทาแล้วขับผิวมาก เนื้อลิปดีงามมากกก
เม็ดสีแน่นทาออกมาแล้วแมทพอสมควรแต่ทาแล้วไม่แห้งแคร๊ก ไม่ตกร่องหรือเป็นคราบเลย
4U2 Love me HARDER LMH 12 KISS THE RED ราคา 199 บาท
เป็นลิควิดลิปสติกสีแดงแบบว่าแดงเข้มๆ ที่มาออกมาแล้วสวยมากอีกสีนึงตัวนี้ของ 4U2 เนื้อคือดีมาก
ดีกว่ารุ่นก่อนๆ เยอะเลย ทาแล้วได้สีเนียนสนิทไปกับปาก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เนื้อแมทท์แต่ไม่แห้งมาก
ทาแล้วเบาสบายปาก ไม่แตกไม่ตกร่อง เม้มปากก็ไม่เหนียว
สวัสดีค่ะ หลังจาก Blog ที่แล้วที่อ๊อฟเพิ่งรีวิวตัว Cetaphil Gentle Skin
Cleanser ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
ก็มีคนถามเข้ามาเยอะมากว่า แล้วรีวิวสำหรับคนผิวมันบ้างล่ะ คนเป็นสิวล่ะ
ไม่มีบ้างหรอ วันนี้อ๊อฟเลยจัดรีวิว Cetaphil Oily Skin
Cleanser สิ่งจำเป็นสำหรับผิวมันและบอบบางแพ้ง่ายมาให้ตามคำขอค่ะ
Cetaphil Oily Skin Cleanser คลีนเซอร์สำหรับคนผิวมัน
เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสำหรับผู้ที่มีผิวมัน
หรือผิวที่เกิดสิวง่าย ตัวนี้เค้าช่วยขจัดความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรกและสิ่งที่
ไม่จำเป็นบนใบหน้าได้อย่างอ่อนโยน คงเหลือแต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับผิวจริงๆ
ทั้งยังผ่านการวิจัยมาแล้วว่าช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า
ได้จริงถึง 54% (Chris T. McAllister, et. al., Clinical Assessment of a
Cleanser for Moderately Oily Acne-Prone Skin, 1997)
อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสของการเกิดสิวได้อีกด้วยค่ะ
ตัวเนื้อคลีนเซอร์เป็นเจลใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอมและส่วนผสม
ของแอลกอฮอลล์แถมยังมาพร้อมกับค่า pH 5.5 มีความเป็นกรดอ่อนๆ
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
คลีนเซอร์ขวดนี้สามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้ ดังนั้นใครที่ใช้พวกเจล
แต้มสิวหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เป็นสิวตัวนี้ใช้ร่วมกันได้แน่นอนค่า
ด้วยนวัตกรรมสูตร Gentle Foaming Action ช่วยลดความมันส่วนเกิน
สิ่งสกปรกและคราบเครื่องสำอางบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึก
อ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวเพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่า
แม้แต่คนผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ยังใช้ได้ ปลอดภัยหายห่วงค่ะ
ที่สำคัญตัวนี้เค้ามีมอยเจอร์ไรเซอร์ Glycerin และ Panthenol (วิตามิน B5)
ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำไว้ที่ผิว ช่วยให้ผิวไม่แห้งตึง
หลังจากที่เราล้างหน้าเสร็จ พอเราล้างหน้าเสร็จแล้วยังนุ่มชุ่มชื้น
จะทำให้หน้าไม่กลับมามันแล้วมันอีก ตัดวงจรหน้ามันซ้ำซากค่ะ
หลังจากหลังหน้าเสร็จรู้สึกได้เลยว่า
“ผิวสะอาดและเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น
ลูบไปแล้วไม่ดังเอี๊ยดหรือรู้สึกตึงที่ผิวหน้า “
สำหรับใครที่เป็นสิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบสามารถใช้ตัวนี้ได้
ไม่ต้องกลัวแพ้เลยค่ะ
สามารถหาซื้อ Cetaphil Oily Skin Cleanser ขนาด 125 ml.
ได้ที่ Watsons / Boots / Eveandboy
และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป ในราคาราคา 500 บาทค่ะ
และยังมีขนาดจิ๋ว 29 ml. หาซื้อได้ที่เซเว่นอีเลฟเว่น
ในราคา 109 บาทด้วยนะคะ
ฝุ่นเยอะๆ แบบนี้อย่าลืมมาดูแลผิวกันค่ะ
สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟจะมาแชร์ปัญหาส่วนตัวของอ๊อฟเอง ไม่รู้ว่าสาวๆ คนอื่นเป็นกันมั้ย
นั่นก็คือ “ผมลีบผมแบน “ ทำยังไงผมก็ดูไม่มีวอลลุ่มกับเค้าซักที
เนื่องจากอ๊อฟเป็นคนที่ผมตรงมว๊ากกกก เวลาสระผมเสร็จผมนี่ตรงแหน่วเลย
เวลาจะออกจากบ้านแต่ละทีก็ต้องม้วน ต้องยีผม เสียเวลาในการเซตผมนานมาก
แต่ปัญหาผมลีบผมแบนจะไม่เกิดกะอ๊อฟแล้ว เพราะว่าตอนนี้มันมีวิธีที่จะทำให้ผมพองขึ้น
มีวอลลุ่มขึ้น ดูเป็นคนผมหนาสุขภาพดีขึ้น ด้วยเทคนิคจากประเทศเกาหลี
นั่นก็คือ ” การดัดผม” นั่นเอง
และจะเป็นร้านไหนไปไม่ได้นั้นก็คือ ToB 1 Hair Station เป็นร้านที่อ๊อฟฝากชีวิตผมอ๊อฟไว้ที่นี่
ไม่ว่าจะทำสี ทำทรีทเม้นท์ ดีท๊อกซ์หนังศีรษะ หรือะไรที่เกี่ยวกับเส้นผม
อ๊อฟยกให้ร้านนี้เป็นที่หนึ่งเลย และสาขาที่อ๊อฟเข้าไปดูแลผมก็คือสาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะคะ
อยู่ชั้น 3 โซนบิวตี้ หาไม่ยากเลยค่ะ
มาถึงทางร้านก็จะทำการเช็คสภาพและวิเคราะห์ผมก่อนว่าลักษณะผมของเราเป็นยังไงบ้าง
ต้องบอกว่าสาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ พี่ปูเค้าเป็นอันดับ 1 ในการดัดจริงๆ
อย่างที่บอกว่าผมอ๊อฟลีบและแบนมาก วันนี้เลยจะทำการดัดยกโคนเพื่อให้โคนผมพองขึ้น
ดูสปริงตัวขึ้นที่สำคัญไม่มีใครจับได้แน่นอนว่าเอ๊ะ ไปทำอะไรมา
หลังจากที่ประเมินผมแล้ว ตรงช่วงผมที่อ๊อฟเคยฟอกหรือทำไฮไลท์ค่อนข้างอ่อนแอ
เลยต้องมีการทำทรีทเม้นท์อัดเข้าไปเพื่อให้สุขภาพผมแข็งแรง
ตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่นสำหรับดัดผมด้วย พรีทรีทเมนท์ 2,500 ก่อนดัด
*** ขึ้นอยู่กับสภาพของเส้นผม บางคนต้องทำก่อนดัด บางคนอาจจะดัดได้เลย
หลังจากที่เราทำทรีทเม้นท์เสร็จก็จะเริ่มใส่น้ำยาดัดผม ซึ่งจะเริ่มทำการดัดยกโคนเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม
ให้กับผม ให้ผมสปริงตัวขึ้น ซึ่งจะบอกว่าเทคนิคนี้ส่งตรงมาจากประเทศเกาหลีเลยทีเดียว
สาวๆเกาหลีเค้าฮิตดัดยกโคนมากกกก สาวไทยอย่างเราก็ห้ามพลาดนะจ๊ะ
ซึ่งราคาดัดยกโคนผมราคา 3,000 บาท
นอกจากจะดัดยกโคนผมให้ดูสปริงตัวขึ้นแล้ว
เราก็จะมาดัดช่วงปลายผมให้ดูมีวอลลุ่มด้วยการดัดดิจิตอลค่ะ
บางคนกลัวว่าดัดผมแล้วจะเป็นลอนหยิกดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องห่วงค่ะ
ลอนที่นี่จะเป็นลอนใหญ่ๆ คลายๆ เหมือนสาวเกาหลี
เห็นสายระโยงระยางไม่ต้องตกใจไปนะคะ ขั้นตอนนี้จะเป็นการปล่อยพลังงานความร้อน
ที่ช่วยทำให้ลอนดัดของเราเซตตัวเราจะรู้สึกอุ่นๆ นิดหน่อยไม่ร้อนถึงหนังศีรษะค่ะ
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ
ดัดปลายดิจิตอลราคา 6,000 บาท (ความยาวผมอ๊อฟดัดปลายดิจิตอลราคา 5,800 บาทนะคะ)
หลังจากที่ล้างน้ำยาดัดผมเสร็จแล้วก็จะตัดแต่งทรงผมเล็กน้อย เห็นผมเค้าที่ออกมามั้ยเป็น curve สวยงามเลย
ซึ่งราคาตัดผมที่สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ราคา 600 บาท
แต่ถ้าอยากให้คุณแม่โอ๋ตัดผมให้เหมือนในรูปแบบอ๊อฟ ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท ต้องโทรนัดล่วงหน้าน้าาา
หลังจากที่ตัดผมเรียบร้อย วิธีเซตผมดัดก็ไม่ยากเลยค่ะ ใช้มือบิดผมให้เป็นเกลียวแล้ว
ใช้ไดร์เป่าผม เป่าให้แห้ง เพียงแค่นี้ผมก็ออกมาพองหนาดูสุขภาพดี
ทั้งโคนผมที่ยกขึ้นและปลายผมที่ดัดออกมาดูเป็นธรรมชาติ
ไม่ต้องหัวลีบหัวแบนอีกต่อไปแล้ววววว
ทั้งโคนผมที่ยกขึ้นและปลายผมที่ดัดออกมาดูเป็นธรรมชาติ
ไม่ต้องหัวลีบหัวแบนอีกต่อไปแล้ววววว
ต้องขอบคุณพี่ปูและพี่โอ๋ ทีมงาน ToB1 Hair Station สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะด้วยนะคะ
ที่ดูและทุกขั้นตอนการทำผมเป็นอย่างดี สำหรับสาวๆ ที่สนใจวันนี้อ๊อฟมีโปรโมชั่นมาฝากกันด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ติดต่อสอบถามโปรโมชั่น – นัดหมาย
📞 081 966 1023