Category

Fashion

Category

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับอ๊อฟอีกแล้ว และแน่นอนว่าวันนี้อ๊อฟก็มีไอเทมชิ้นนึง
ที่จะมาแนะนำสาวๆ เป็นสิ่งที่ผู้หญิงเราขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ   “กระเป๋า”  นั่นเอง
และแบรนด์ที่จะมาแนะนำวันนี้คือแบรนด์ VEMAR 
ซึ่งวันนี้อ๊อฟไม่ได้มารีวิวกระเป๋าอย่างเดียวนะคะ แต่จะมา MIX & MATCH
กระเป๋าใบนี้กับการแต่งตัวสไตล์ MONO TONE ที่จะแต่งลุคสมาร์ทๆ ไปทำงานก็ได้ 
ลุคหวานๆ ออกงานก็ได้ หรือจะแต่งลุคเปรี้ยวๆ ไปเดินเที่ยวก็ได้

บอกเลยว่ากระเป๋าใบนี้ใบเดียวเอาอยู่แทบทุคลุคเลย
ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นรุ่นยอดฮิตที่มีคนใช้มากเหมือนกัน นั่นก็คือ รุ่น CHARLOTTE
เป็นหนังวัวเทียมอย่างดี ตัวหนังกันรอยขีดข่วนได้
แถมยังทำความสะอาดก็ง่ายมาพร้อมกับอะไหล่สีทอง
ถือแล้วดูหราหรามาก จริงๆ แล้วเค้ามีอีกสองสี แต่อ๊อฟเลือกสีขาวดำมา
เพราะคิดว่าเอามาแมทช์กับเสื้อผ้าในตู้ง่ายดี 

ใบนี้ใบเดียวจุของได้ค่อนข้างเยอะเลย สามารถใส่พาวเวอร์แบงก์อันใหญ่ได้
กระเป๋าสตางค์ใบสั้นได้ ตลับแป้ง ลิปสติก
และโทรศัพท์ก็ใส่ได้เหมือนกัน สาวๆ คนไหนที่พกของประมาณนี้ ใบนี้ใส่ได้หมดจ้า

มาเริ่มกันที่ LOOK 1   อ๊อฟเน้นเสื้อผ้าโทนขาวดำนะคะ
เพราะในตู้เสื้อผ้ามีเยอะมาก ลุคนี้เป็นเดรสสายเดี่ยว
หยิบมาใส่คู่กับเบลเซอร์ลายจุดสะพายคู่กับกระเป๋าเข้ากันมาก
ใบนี้มีสายสะพายให้เปลี่ยนถึงสองเส้นเลย เป็นสายหนัง
และสายผ้าค่ะ ลุคนี้อ๊อฟเลือกใช้สายหนังจะได้ดูเรียบๆ
เป็นทางการขึ้นมานิดนึง สามารถไปทำงาน ไปประชุม
หรือกลางคืนออกไปทานข้าวกับเพื่อนได้เลย

ต่อมา LOOK 2 เป็นลุคแบบหวานๆ ปน SEXY เน้นเดรสกระโปรง
ระบายๆอ๊อฟเปลี่ยนสายสะพายให้มันดูตัดกับชุดจะได้ไม่กลืน
ไปกับชุด พอเปลี่ยนสายปุ๊บดูเด่นขึ้นมาเลย ลุคนี้จะออกไปกินข้าวกับเพื่อนกับแฟน 
หรือจะไปนั่งจิบไวน์เบาๆ ก็ได้ ดูเรียบๆ
สบายๆ แต่ออกงานได้นะเออ

LOOK 3 ลุคสุดท้ายเป็นลุคที่ออกเปรี้ยวๆ แต่งไปเดินเที่ยวไปชอปปิ้งวันสบายๆ
โดยรวมอ๊อฟว่าโทนสีของกระเป๋าเค้าแต่งหรือแมทช์กับเสื้อผ้าค่อนข้างง่าย
ไม่จำเป็นต้องแต่งขาวดำโมโนโทนแบบอ๊อฟนะคะ จะใส่กับยีนส์หรือเสื้อยืด
อ๊อฟว่าแต่งได้เหมือนกันสำหรับสาวๆ ที่สนใจกระเป๋าใบนี้ บอกเลยว่าใบจริงสวยมาก หนังดีเลย
วัสดุการตัดเย็บเรียบร้อย แถมมีสายสะพายมาให้สองเส้นในราคาสองพันต้นๆ ด้วยราคาเบาๆ
แต่ดูดีเหมือนกระเป๋าแบรนด์ดังๆ เลยใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูได้ที่แฟนเพจหรือเวปไซด์
ของ VEMAR ได้เลยค่าหรือจะสั่งซื้อตามลิงก์ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ

http://bit.ly/2uy99JH

อย่าลืมใส่โค้ดส่วนลด ILOVEADAY100 ลดทันที 100 บาท!!!


**รีวิวนี้เหมาะกับต่างประเทศที่มีอากาศที่เย็นสบายธรรมดาจนไปถึงอากาศหนาวที่ไม่ติดลบมาก
ดังนั้นถ้าติดลบมาก ควรหาเสื้อขนเป็ด หรือเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกว่านี้ค่ะ**
สวัสดีค่ะ เมื่อเดือนธันวาปีที่แล้ว อ๊อฟได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นซึ่งตรงกับช่วงฤดูหนาวพอดี
อากาศหนาวสุดประมาณ – 4 องศา อุ่นสุดก็ประมาณไม่เกิน 10 องศา ต้องบอกก่อนว่าอ๊อฟไม่ชอบอากาศหนาว
เอาซะเลยเลย เพราะอ๊อฟเป็นคนที่ขี้หนาวมากแค่แอร์ 24 องศาก็หนาวแล้ว แค่อาบน้ำออกมาโดนแอร์
ในห้องนอนยังตัวสั่นเป็นลูกนกเลย ดังนั้นเลยจะต้องเตรียมตัวมากกว่าคนอื่น ซึ่งการซื้อเสื้อผ้าแต่ละที
ก็ใช้เงินไม่น้อยวันนี้อ๊อฟเลยจะมาแนะนำว่าอะไรที่ควรมี อะไรที่ต้องซื้อใส่ไปผจญความหนาว
โดยใช้งบไม่เยอะ แต่ใส่แล้วออกมาสวยไม่อ้วนตุ๊ต๊ะเป็นหมี

(เครดิตรูปภาพจากยูนิโคล่)

1. เสื้อ Heattech  แน่นอนสิ่งแรกที่เราต้องมีไม่มีไม่ได้ อ๊อฟเลือกใส่ยี่ห้อ ของ Uniqlo 

Heattech รุ่น Extra warm ราคาตอนนี้น่าจะ 590 บาท เป็นฮีทเทคบางๆไม่หนามาก

อ๊อฟซื้อใส่แค่ตัวเดียวค่ะ แต่ถ้าใครหนาวจะใส่ซ้อนกันสองสามชั้นก็ได้

เสื้อฮีทเทคจะช่วยกักเก็บความอุ่นของร่างกาย

 เมื่อข้างในตัวอุ่นก็ใช้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ตอนนี้เค้ามีรุ่น Ultra warm ออกมา

ซึ่งเหมาะกับคนที่ขี้หนาวเป็นพิเศษ ใครหนาวมากจัดตัวนี้ไปเลย

เคล็ดลับควรใส่ไซส์ให้พอดีกับตัว ไม่ควรเลือกไซส์ใหญ่กว่า ยิ่งแนบลำตัวมากเท่าไหร่ยิ่งอุ่นเท่านั้น

(เครดิตรูปภาพจากยูนิโคล่)

2. เสื้อไหมพรมหรือสเวตเตอร์ เราจะใส่ทับฮีทเทคค่ะ เลือกแบบทอลายแน่นๆ หน่อย ยิ่งแน่นยิ่งทำให้ลม

ผ่านเข้าไปยากและแบบที่ควรเลือกคือคอปีนหรือคอเต่า แต่อ๊อฟเลือกเสื้อฮีทเทคฟรีซของยูนิโคล่มาค่ะ

ในรูปจะเห็นว่าอ๊อฟใส่ฮีทเทคฟลีชสีขาว ซึ่งอ๊อฟคิดว่ามันดีกว่าเสื้อไหมพรมเพราะมันสามารถกันลม

และกันอากาศหนาวได้ระดับนึงเลยทีเดียวค่ะ อ๊อฟเลือกสีขาวกับดำมาใส่สลับกันไป

ราคาตัวละประมาณ 290 บาท ถือว่าไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับซื้อพวกเสื้อไหมพรมแบบแฟชั่น

3. กางเกงสกินนี่กันหนาว  อ๊อฟซื้อของแบรนด์ coatover ค่ะ ซึ่งเป็นผ้ายืดใส่สบายมาก
คุณสมบัติเค้าบอกมาว่าใส่ได้ถึงอุณหภูมิติดลบ 10 องศา อ๊อฟซื้อมาหลายปีแล้ว
เลือกสีดำมากับสีขาวเพราะใส่เข้าง่ายกับทุกชุด mix & match ใส่ไปได้ตลอด
ใส่ไปเกาหลีตอนติดลบเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็ยังเอาอยู่ แค่อย่าให้อ้วนกว่าเดิมก็พอ 555
ราคาแรงไปนิดแต่ลงทุนครั้งแรกแล้วก็ควรเก็บรักษาดีๆ ค่ะ อ๊อฟซื้อมา 1,190 บาท

ส่วนใครไม่ชอบใส่พวกสกินนี่กลัวจะอุ่นไม่พอ ใส่กางเกงฮีทเทคแทนก็ได้เหมือนกันค่ะ

4. รองเท้าบูทยาว อ๊อฟเลือกซื้อแบรนด์ Coatover ที่อ๊อฟเลือกแบบยาวถึงเข่ามา
เพราะมันจะช่วยกันลมกันอากาศเย็นได้อีกทางหนึ่ง ทำให้หน้าขาอุ่น แต่ถ้ามีงบซื้อเป็นบูทหนังที่กันหิมะ
ได้จะดีกว่าค่ะ นอกจากจะเดินสบายไม่ต้องกลัวลื่นแล้ว ยังไม่ต้องกลัวว่าเวลาหิมะละลายหรืออากศชื้นๆ
จะเปียกหรือซึมเข้าไปข้างในรองเท้า ส่วนของอ๊อฟเลือกเป็นแบบผ้าเพราะอ๊อฟไม่ได้ไปลุยหิมะ
ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่ารองเท้าจะเปียกค่ะ ขอแค่เท้าอุ่น ใส่เดินสบายไม่เมื่อยก็พอ
และยี่ห้อที่เลือกมาก็เป็นแบบมีส้นเพราะเราเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ เล็กนะคะ
ไม่ใช่เตี้ย 555 ดังนั้นใส่บูทมีส้นจะช่วยให้ดูสูงเพรียวมากขึ้น แนะนำแบบส้นเตารีด
จะใส่เดินได้สะดวกสบาย อ๊อฟซื้อมา 2-3 ปีที่แล้ว ราคา 1,590 บาท
ใส่เดินทั้งทริปก็ยังไม่เจ็บขา อาจจะมีเมื่อยนิดหน่อยเท่านั้นเอง

5. เสื้อโค้ท เมื่อตอนไปต่างประเทศครั้งแรกอ๊อฟซื้อพวกเสื้อโค้ทวูลมา 4-5 ตัว
แบบใส่ไม่ซ้ำกันทุกวัน ราคาก็แน่นอยู่ ตัวละสองพันกว่า พันกว่าๆก็มี แต่ไม่เคยต่ำกว่าพันเลย
ซื้อหมดทีก็เป็นหมื่นเอามาขายก็ได้ราคาน้อยไม่คุ้มกันอีก ดังนั้นมาคิดดูแล้ว อ๊อฟเลยเลือกจะซื้อ
มือสองเอาค่ะ ตัวนึงไม่เกิน 500 บาท บางตัวอ๊อฟซื้อมา 300 ก็มี ใส่เสร็จขายต่อในไอจีได้อีก
เอาเงินไปซื้อตัวใหม่ใส่ทริปต่อไป เพราะอ๊อฟไม่ค่อยใส่เสื้อผ้าซ้ำ เวลาถ่ายรูปจะได้ออกมาสวยเนอะ
และที่อ๊อฟใส่อยู่ทั้งทริปก็เป็นโค้ทมือสองทั้งนั้นเลยค่ะ แหล่งซื้ออ๊อฟจะซื้อในไอจีค่ะ
เพราะเป็นคนซื้อเสื้อผ้าทางอินเตอร์เนตบ่อยมาก แต่ถ้าใครกลัวจะใส่ไม่ได้อ๊อฟแนะนำว่าไปซื้อ
ที่ธัญญาพาร์คศรีนครินทร์เลยค่ะ ตรงชั้นที่ทำ passport ลงมาจะมีร้านขายเสื้อกันหนาว
อุปกรณ์กันหนาวมือหนึ่งมือสองสภาพดีเยอะมาก ราคาไม่แพงอีกด้วย
อ๊อฟไปดูแล้วบางตัวนี่ยังใหม่เลย ทำความสะอาดเรียบร้อย ซื้อมือสองยังคุ้มกว่าเช่าอีก
เพราะคำนวณแล้วถ้าเช่าแบบสวยๆ อ๊อฟเคยหาข้อมูลเช็คราคาตัวนึงก็ปาไป 1,000 บาทแล้ว
5 ตัว ก็ 5,000 บาทแหนะ อ๊อฟเลยคิดว่าซื้อมือสองคุ้มกว่าค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องคนที่รับได้ด้วยนะคะ
บางคนอาจจะไม่ชอบใส่เสื้อผ้ามือสอง ส่วนอ๊อฟเลือกเป็นบางอย่างค่ะ ไม่ค่อยถือ

(เครดิตรูปภาพจากกูเกิ้ล)

6. ถุงทรายร้อน อันนี้คือดีมาก อ๊อฟใช้ขยำในกระเป๋าเสื้อโค้ทแทบตลอดเวลา มันช่วยได้มากจริงๆ
ตอนที่เรายกมือออกมาถ่ายรูป มือนี่แข็งกดชัตเตอร์แทบไม่ลง นึกว่ามือหายไปแล้ว
ถุงทรายร้อนแบบนี้ช่วยได้มาก ถ้าหนาวตรงไหนก็หยิบขึ้นมาอังจะช่วยให้รู้สึกอุ่นได้ ถุงนึงอยู่ได้ตั้งหลายชม.
ราคาต่อถุง ถุงละ 30 บาทไทย อ๊อฟไปซื้อที่โน่นเอาค่ะ บางคนถามว่าแผ่นแปะๆ ที่ขายตาม 7 ช่วยได้มั้ย
สำหรับอ๊อฟ อ๊อฟว่าแทบไม่ได้ใช้เลย เพราะ ในตัวเรามันอุ่นอยู่แล้วจากเสื้อผ้าที่เราใส่มา
จะมีแต่พวกตรงศีรษะ หู จมูก แขน ขา เท้า เท่านั้นที่เวลาลมปะทะมายังคงเย็นอยู่

 

(เครดิตรูปภาพจากยูนิโคล่)

7. ถุงเท้าฮีทเทค สำหรับอ๊อฟคิดว่าสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้อุ่นแล้ว ยังไม่เก็บเหงื่ออีกด้วย
ไม่ชื้น ไม่เหม็น ซื้อคู่เดียวใส่ไปทั้งทริปเลย 555 (อย่าบอกใครไปเนอะ)

8. หมวก ที่ปิดหู ถุงมือ หน้ากาก ผ้าพันคอ อันนี้ก็สำคัญค่ะ ควรมีติดไว้เอาไว้
ตอนอ๊อฟไปเดินดูไฟตอนกลางคืน ทรมานมาก ตัวมันอุ่นแต่หนาวหน้ามาก หน้าชาไปหมด
แค่ถอดออกมาถ่ายรูป จมูกยังแดง ตาฉ่ำไปหมด ยิ่งเวลาลมปะทะมานะ อยากตะโกนดังๆ ว่า ไม่ไหวแล้วโว๊ยยย
ส่วนใครที่ไม่มีหน้ากากหรือผ้าปิดจมูกจริงๆ ก็เอาผ้าพันคอนี่แหละมาพันคอให้ปิดไปถึงปากหรือจมูกก็ได้ค่ะ
ช่วยได้เยอะเหมือนกัน แถมยังพันได้หลายแบบอีกด้วย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์แก่สาวๆ ไม่มากก็น้อย
แล้วพบกันใหม่ blog หน้าน้าาาา

 

 

 

สวัสดีค่า วันนี้อ๊อฟจะมาแนะนำเทคนิคการแต่งตัวและการถ่ายรูปที่ช่วยให้ดูผอมเพรียวได้ง่ายๆ
โดยที่ไม่ต้องใช้วิธีลดน้ำหนักเอาเป็นว่าถ้าตอนนี้ใครอวบอ้วนหรือมีบางมุมที่ไม่มั่นใจอยู่
แบบว่าถ่ายออกมามุมไหนก็ดูอ้วน รับรองทำตามได้รูปสวยๆ ชัวร์

ท่าที่ 1 . เอะอะอะไรก็พอยท์ขา
ท่านี้ไม่ยาก ยืนเฉยๆ มันจะดูแข็งไป ได้โปรดสวมวิญญาณนางแบบพอยท์ขาเข้าไว้ โดยจิกขาไว้ข้างหนึ่งและทิ้งสะโพกไว้
อีกข้างหนึ่ง ถ้าไม่มั่นใจในส่วนไหน เช่นคิดว่าต้นขาใหญ่ไปให้ใช้กระเป๋าใบใหญ่ๆ มาปิดหรือพรางเอาไว้
การแต่งตัวช่วยเราได้อีกมากเช่นกัน อ๊อฟเลือกกางเกงสีเข้มเอวสูงขาบานมาใส่กับส้นสูงจะช่วยให้ขาเราดูเรียวยาว
ขึ้นอีกด้วย สูง 157 เซน อย่างอ๊อฟก็บวกเพิ่มมา 165 เซนทันที

ท่าที่ 2 ก้าวเดินแบบเผลอๆ สวยๆ 
คิดอะไรไม่ออกให้เดินเลยจ้า ท่านี้ให้จินตนาการว่ากำลังเดินชมนกชมไม้ อากาศดี ๆ ลมเย็นๆ อะไรทำนองนี้
เดินไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้ก็กดชัตเตอร์รัวๆ ก้าวขาให้ดูธรรมชาติเข้าไว้อย่าเกร็ง ถ้าใส่ส้นสูงได้ใส่โลด
จิกไปเลย 4-5 นิ้ว รับรองเพรียวแน่นอน

ท่าที่ 3 การถ่ายภาพครึ่งตัว(half portrait)
ท่านี้ไม่ต้องกังวลว่าขาจะใหญ่ จะสั้นมั้ย เพราะเราจะถ่ายแค่ครึ่งตัวเท่านั้นเอง ลืมเรื่องขาสั้น ขาใหญ่ไปได้เลย
หมดปัญหาเรื่องรูปร่าง ส่วนคนที่กลัวจะแขนใหญ่อ๊อฟแนะนำเสื้อแขนยาวที่ไม่โชว์แขน ไม่ควรใส่เสื้อสายเดี่ยวและแขนกุด
หาเสื้อแขนยาวระบายน่ารักๆ ช่วยเพิ่มความหวาน แถมยังอำพรางแขนอวบๆ ได้อีกด้วย

ท่าที่ 4 หันข้างแล้วหลบเข้าป่า
 
ท่านี้ไม่ยากเกินไป เห็นดอกไม้ใบหญ้าข้างทางรีบแทรกตัวเข้าไปโลด รูปที่ออกมามันก็จะดูฮิปสเตอร์หน่อยถ้าไม่มีป่า
ไม่มีต้นไม้ ไม่มีดอกหญ้าหละ จะทำยังไง ก็หันข้างเข้าเฟรม เอียงหน้าให้กล้องเล็กน้อย ยิ้มหวานซะหน่อย
ปล.ชุดเปิดใหล่จะช่วยอำพรางต้นแขนและทำให้ดูเซ็กซี่เล็กๆ ได้อีกด้วย ไปหามาใส่กันนะจ๊ะ

ท่าที่ 5 เมื่อยแล้วขอนั่งหน่อย
ท่านี้ถ้าเห็นบันไดให้รีบลงไปนั่งเลย จะนั่งหันหน้าตรงๆ หรือหันข้างก็ได้ ขอให้เหยียดขาข้างหนึ่งออกมา
กระกดปลายเท้าขึ้นเล็กน้อยถ้ากดปลายเท้าลงจะทำให้เท้าเราเกร็งแล้วน่องอาจจะโป่งขึ้นมาได้
ดังนั้นกระดกเชิดขึ้นแบบสบายๆ แค่นี้พอ

ท่าที่ 6 พิงกำแพงหรือประตู
ท่านี้แค่มีผนังหรือประตูก็พิงได้ทันที หันหลังพิงกำแพงยืดขาข้างหนึ่งไว้ด้านหน้า อีกข้างยันกำแพงไว้
ท่านี้จะช่วยให้สาวอวบดูเพรียวขึ้น จะให้ดีใส่ส้นสูงด้วยจะช่วยจะทำให้ขาเรียวยาวมาก
พร้อมแล้วโพสแบบไม่มองกล้องหรือมองไปทางอื่น ก็จะได้ภาพแบบเผลอๆ สวยๆ แล้ว

ท่าที่ 7 ไขว้ขาเป็นตัว X
ลองไขว้ขาเป็นตัว X แล้วยืดปลายเท้าไปด้านหน้า เขย่งเท้าเล็กน้อยก็จะช่วยให้ดูสูงขึ้นกว่าเก่า
ถ้ายังกังวลเรื่องต้นขาให้เอามือมาวางแปะไว้ที่ต้นขาช่วยอำพรางได้นิดหน่อย ท่านี้ต้องหันหน้าเข้ากล้อง
อย่าหันข้างเด็ดขาดเพราะจะทำให้เห็นความหนาของช่วงขา อ๊อฟพลาดมาแล้ว ถ่ายผิดมุมชีวิตเปลี่ยน 555

ท่าที่ 8 หันหลังให้กล้อง
ท่านี้แค่เดินหลังหลังแล้วให้เพื่อนเรียกชื่อ ส่วนเราก็หันมาสวยๆ แบบอะไรนะ แต่จะหันหลังแบบตรงๆ
ไม่ได้ต้องหันหลังเอียงนิดๆ แอ่นก้นนิดหน่อย แล้วก้าวขายาวๆ เหมือนจะเดินพร้อมกับหันหน้าเอียงคอ
ยิ้มเบาๆ ให้กล้องเพียงแค่นี้ก็จะออกมาผอมเพรียวแล้ว ส่วนสาวๆ ที่มีรูปร่างอวบให้ลองใส่กางเกงที่ดูหลวมๆ
และไม่รัดต้นขาจนเกินไปเลือกเนื้อผ้าทรงปล่อยๆ แบบพริ้วๆ บางๆ สบายๆ จะช่วยให้เสื้อผ้าดูเด่นและดูรูปร่างเพรียวขึ้นค่ะ

สวัสดีค่า ถึงจะไม่ใช่ summer แต่เราก็ยังใส่ชุดว่ายน้ำได้ตลอดน้าาา หลังจากปีที่แล้วที่อ๊อฟออกกำลังกาย
อย่างหนักหน่วงผอมเพรียวมี 6 แพค แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เคยได้ใส่ชุดว่ายน้ำกับเค้าซักที เวลาล่วงผ่านเลยไป
ไม่ได้ออกกำลังกาย ทานเยอะ น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น แต่มันดันอยากใส่ชุดว่ายน้ำ 
วันนี้อ๊อฟเลยเอาเทคนิคดีๆ ในการเลือกชุดว่ายน้ำ ที่ช่วยอำพรางจุดด้อย เสริมจุดเด่น
ที่อ๊อฟลองมาแล้วกับตัวแล้วมันช่วยได้จริง !!! จะมีปัญหาอะไรบ้างนั้นไปดูกันเล๊ยยยยยย

1. ปัญหาไม่มั่นใจ กลัวอ้วน กลัวดำ ใส่ชุดว่ายน้ำแบบไหนดี

สาวที่สะโพกใหญ่หรือต้นขาใหญ่ควรเลือกชุดว่ายน้ำแบบกระโปรง จะวันพีซหรือทูพีซก็ได้ค่ะ
เลือกกระโปรงที่มีระบายแบบเบาๆ ไม่พองและไม่ยาวมาก

ปิดช่วงต้นขานิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ไม่ควรจะปกปิดจนเกินไป ท่อนบนเลือกแบบเว้าลึกหน่อยเพื่อเบี่ยงเบียน
ความสนใจจากสะโพกถ้ายังไม่มั่นใจเลือกท่อนล่างเป็นสีเข้มก็ได้นะคะ
แต่อ๊อฟว่าแค่สีเรียบๆ ที่ดูไม่สะดุดตาก็ช่วยพรางได้แล้ว

แต่ถ้ายังไม่มั่นใจอีก อ๊อฟแนะนำให้หาเสื้อคลุมเก๋ๆ มาเป็นพรอพ
ใส่คลุมเดินเล่นริมสระว่ายน้ำก็ดูน่ารักไปอีกแบบน้าาา

2. ปัญหาไม่มั่นใจ กลัวอ้วน กลัวดำ ใส่ชุดว่ายน้ำแบบไหนดี

ปัญหานี้มันเกิดจากตัวอ๊อฟเองเลยเมื่อสองสามปีที่แล้ว เห็นอย่างนี้อ๊อฟก็ไม่กล้าใส่ชุดว่ายน้ำแบบทูพีซกับเค้าน
กลัวอ้วนบ้าง กลัวดำบ้าง เลยตัดสินใจเลือกชุดว่ายน้ำแบบที่เซฟตัวเอง ปกปิดและให้โชว์ให้น้อยที่สุด
นั่นก็คือ “แบบสปอร์ต” นั่นเอง ซึ่งมันก็ดูทะมัดทะแมงแบบสาว sport girl ใส่แล้วไม่โป๊ แต่ก็ยังดูเซ็กซี่แบบเบาๆ

สำหรับสาวๆ ที่ยังไม่มั่นใจจะใส่ชุดว่ายน้ำ อ๊อฟว่าแบบนี้ดูน่ารักดี ที่สำคัญชุดว่ายน้ำแบบนี้
อาจจะเน้นรูปร่างไปหน่อยแต่ก็ไม่ทำให้ดูโป๊ที่สำคัญที่เลือกชุดนี้มาเพราะเนื้อผ้ามันเก็บทรงดี
แถมกันยูวีได้อีกด้วยจะใส่ไปว่ายน้ำหรือออกกำลังกายก็ยังดูดี แถมไม่ดำอีกต่างหาก

3. ปัญหามีพุง ท้องป่อง ใส่ชุดว่ายน้ำแบบไหนดี

แน่นอนค่ะ มีพุงใครจะไปอยากโชว์ ไหนจะกินอิ่ม ไหนจะวันนั้นของเดือน
ไหนจะอ้วนขึ้นลดน้ำหนักไม่ทัน แต่มีเหตุให้ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ
สาวๆ ควรเลือกชุดว่ายน้ำแบบบิกินี่เอวสูง นอกจากจะช่วยปิดบังพุงได้แล้วยังช่วยพรางสะโพกได้อีกด้วย
เลือกเนื้อผ้าที่แน่นกระชับหน่อยจะช่วยเก็บทรงได้ดี
ท่อนล่างเราเลือกแบบเอวสูงไปแล้ว สำหรับสาวอกเล็ก อ๊อฟแนะนำเลือกท่อนบนแบบดันทรง
และเป็นสายคล้องคอจะช่วยให้อกเล็กๆ ของเราดูอึ๋มขึ้นค่ะ

4. ปัญหาตัวหนา ตัวแบนไม่มีส่วนโค้งส่วนเว้า ใส่ชุดว่ายน้ำแบบไหนดี

สำหรับสาวที่ช่วงตัวแบน อก เอวกับสะโพกเท่าๆ กัน ไม่มีส่วนโค้งส่วนเว้า
อ๊อฟแนะนำว่าควรเลือกชุดว่ายน้ำแบบวันพีซที่มีลูกเล่นเว้าช่วงเอว
จะช่วยหลอกตาให้เอวของเราดูคอดมากขึ้น และแนะนำว่าควรจะเป็นสีดำ
เพราะจะช่วยให้เราดูผอมเพรียวมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากจะช่วยให้มีอก มีเอว มีสะโพกแล้ว วันพีซที่เว้าโคนขาสูงๆ ยังช่วยให้ขาของเราดูเพรียวและยาวอีกด้วย

4. ปัญหากังวลอกเล็กไป อกใหญ่ไปเลือกชุดว่ายน้ำแบบไหนดี

สาวอกเล็กก็อยากใหญ่ ส่วนสาวอกใหญ่ก็อยากจะเล็ก ปัญหานี้อ๊อฟมีวิธีมาแนะนำค่ะ สำหรับสาวอกเล็ก
ควรเลือกชุดว่ายน้ำท่อนบนแบบซีทรูที่เว้าช่วงอกลงมา มีฟองน้ำช่วยเสริมเล็กน้อยจะช่วยให้สาวอกเล็ก
ดูสมส่วนมากขึ้น โชว์ความเซ็กซี่นิดๆ ส่วนสาวอกใหญ่แน่นอนว่าใส่แบบซีทรูจะช่วยปิดหน้าอกหน้าใจ
ไม่ให้ดูเด่นจนเกินไป ดูวับๆ แวมๆ ลึกลับน่าค้นหา
หรือจะเลือกชุดว่ายน้ำที่ปิดด้านหน้าแล้วโชว์ด้านหลัง ก็จะช่วงเบี่ยงเบนความสนใจจากหน้าอกหน้าใจได้ดีค่ะ

5. ปัญหาขาสั้น ใส่ชุดว่ายน้ำแล้วดูตัน เลือกชุดว่ายน้ำแบบไหนดี

ปัญหานี้แก้ยากมาก แต่ก็ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้ ก็พ่อกะแม่ให้ส่วนสูงมาเท่านี้อะเนาะ 150 กว่าๆ อะชอบม้า…ชอบม้าา
สาวๆที่ช่วงขาสั้นอ๊อฟแนะนำว่าควรใส่ชุดว่ายน้ำแบบวันพีซที่เว้าโคนขาสูงๆ  ยิ่งเว้าสูงเท่าไหร่
ก็ช่วยให้ขาของเราดูเพรียวยาวมากขึ้นเท่านั้น
และไม่ควรใส่แบบกางเกงที่ยาวลงมาปิดขาหรือปิดก้นทั้งหมด เลือกแบบเว้าสูงๆ
ให้เห็นส่วนโค้งส่วนเว้าชัดเจนจะช่วยให้ขาดูเรียวยาวแน่นอน

เป็นยังไงกันบ้างคะ นอกจากจะเลือกชุดว่ายน้ำตามรูปร่างอย่างที่เราเคยเห็นกันมาแล้ว
การเลือกชุดว่ายน้ำให้ตรงกับปัญหาของรูปร่างก็ยังช่วยให้พรางจุดด้อย เสริมจุดเด่นได้ดีอีกด้วย
สุดท้ายนี้อยากให้สาวๆ ทุกคนมั่นใจในตัวเอง จะก้นแตกลาย พุงย้อย พุงห้อย นมแบน ขาสั้น
ผอมแห้ง หรืออวบอ้วนจ้ำม่ำก็ใส่ไปเถอะค่ะ อย่าได้แคร์ ขอแค่ให้มั่นใจในตัวเองและเลือกชุดให้เหมาะกับเรา
อ๊อฟรับรองว่าใส่ออกมาสวยทุกคนแต่ถ้าใครยังไม่มั่นใจในรูปร่าง อ๊อฟแนะนำอีกอย่างให้ควบคุมอาหาร
และออกกำลังกาย รับรองว่าหุ่นสวยๆ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟจะมาพูดถึงปัญหาหนักอกหนักใจของสาวๆ ที่เวลาใช้ให้แฟนถ่ายรูปแล้วออกมาไม่สวย
ไม่ได้ดั่งใจ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าอันดับแรกเลย คือ คุยกันกับแฟนก่อน ว่าอยากให้ถ่ายประมาณไหน
ยิ่งมีเรฟเฟอเร้นให้แฟนดูด้วยยิ่งดีถ้าคุยกันเข้าใจแล้ว แฟนพร้อม เราพร้อม กล้องพร้อมก็ลุยกันเล๊ยยยยย

เทคนิคที่ 1  เป็นวัยรุ่นต้องย้อนแสง

ลืมทฤษฎีเก่าๆ ไปได้เลยว่าย้อนแสงแล้วจะหน้าดำ ไม่ต้องกลัวไปเพราะย้อนแสงแล้วสวยมาก
ใครมีกล้องมือถือซัมซุงไอโฟน หรือกล้องคอมแพค กล้องเล็ก กล้องใหญ่ก็หยิบออกมาถ่ายได้
ให้แฟนเราหันหลังเข้าหาแสง ถ้าจะให้ดีแสงช่วงเย็นๆ จะถ่ายออกมาสวยละมุนมาก
เคล็ดลับ เลือกแสงช่วงเย็นจะได้แสงสีส้มที่นุ่ม

ถ้าไม่เก่งเรื่องการวัดแสงก็ไม่ต้องกลัว ถ่ายรูปแรกไปก่อนแล้วเช็คดู ถ้าแฟนของเราหน้าดำไปก็ปรับให้สว่าง
ขึ้นกว่าเดิมหรือถ้าสว่างไปก็ปรับลงให้พอดี รูปตอนถ่ายย้อนแสงแทบจะจบหลังกล้องเลยไม่ต้องแต่งอะไร

เทคนิคที่ 2 เส้นนำสายตา

เส้นนำสายตาจะช่วยให้ภาพที่ออกมาดูมีมิติมากขึ้น เพราะเราต้องการจะเป็นนางเอกยืนสวยๆ ในภาพ
ให้เส้นนำสายตา พาคนที่ดูภาพไปหาเรา เพียงแค่เราเลือกอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นเสมอไป

จะเป็นเสาไฟฟ้า สายไฟ หรือต้นไม้ก็ได้ จะช่วยดึงดูดสายตาของคนดูรูป ให้มองไปตามที่เราต้องการ
ช่วยให้ภาพของเราน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย
เทคนิคที่ 3 หน้าพังให้หันหลังหรือหันข้าง

กรณีนี้อ๊อฟเจอบ่อยมาก วันที่ไม่ได้แต่งหน้าแล้วไปอยู่ในสถานที่สวยๆ แต่อยากมีรูปเก็บไว้อัพลงไอจี
ทำไงดีหละ จะถ่ายหน้าสด ไอเราเวลาหน้าสดก็ไม่ค่อยสวยแถมหมวยซะด้วย
หันหลังเลยรับรองไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สวย
เคล็ดลับ ถ้าหันหลังแล้วกลัวจะอวบจะอ้วนก็ทิ้งระยะให้ไกลออกมาหน่อย จะได้ดูตัวเล็กลง

ถ้าหันหลังแล้วไม่พอใจลองหันข้างดู แต่ๆๆ กว่าจะได้ภาพออกมาสวยนั้น ในรูปอ๊อฟก็ใช้มือในการบังพุง
แอ่นตัวไปข้างหน้าและแขม่วพุงไว้ เพียงแค่นี้ก็ได้รูปออกมาปังๆ แล้ว
แต่ถ้าจะให้ดีเตรียมพร้อมไว้ทุกสถานการณ์ดีที่สุด เมคอัพบนหน้าอย่าได้พร่อง จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง

เทคนิคที่ 4 จุดตัด 9 ช่อง

โดยปกติแล้วหากเราถ่ายภาพแล้วไปยืนอยู่ตรงกลาง มันอาจจะน่าสนใจไม่พอ แต่ถ้าเราอยากให้ภาพ
มันออกมาน่าสนใจขึ้นสวยขึ้น เราจึงต้องนำกฎพื้นฐานของการถ่ายภาพมาใช้
จากในรูปจะเห็นการแบ่งสี่เหลี่ยม 9 ช่องนี้ซึ่งเราเรียกว่าจุดตัด 9 ช่อง และมีจุดที่เส้นตัดกันทั้งหมด 4 จุด 
จากนั้นก็ให้แฟนเราวางเราอยู่ตรงที่เส้นแนวตั้งแนวนอนตัดกันบริเวณจุดตัด
จะมุมซ้ายหรือมุมขวาก็ได้ จะช่วยดึงดูดความสนใจมากขึ้น
เคล็ดลับ เปิดการใช้งานกล้องแบบ Grid สำหรับการจัดวางตำแหน่ง
ยิ่งนำกฎนี้มาใช้กับการถ่ายวิวจะทำให้ภาพออกมาสวยมากขึ้น ให้แฟนถ่ายแบบนี้รูปออกมาสวยแน่นอน

เทคนิคที่ 5 การสร้างกรอบภาพหรือโฟร์กราวด์

เปลี่ยนภาพธรรมดาๆ ให้น่าสนใจด้วยการสร้างกรอบภาพและโฟร์กราวด์ เป็นการเน้นให้แบบในภาพ
ดูโดดเด่นขึ้นโดยการหากรอบ เช่น ต้นไม้ ประตู ฯลฯ มาจัดวางบริเวณด้านซ้ายหรือด้านขวา
หรือโดยรอบของแบบ จะเห็นว่าฉากหน้าจะดูเบลอเพื่อเน้นให้แบบดูเด่นขึ้น

เคล็ดลับ ใช้วิธีเน้นระยะชัดตื้นเฉพาะแบบในภาพ โดยให้กรอบของภาพเบลอเล็กน้อยจะช่วยให้ภาพออกมาสวย

อย่างรูปนี้ก็จะมีต้นไม้เป็นฉากหน้าและมีเสาด้านข้างมาเติมเป็นกรอบให้กับภาพ
ช่วยให้เราดูสวยสะดุดตามากขึ้นกว่าเดิม

เทคนิคที่ 6 การ Candid

CANDID หรือการถ่ายภาพนางแบบโดยไม่ได้ตั้งใจ ภาพที่ออกมาก็จะดูเป็นธรรมชาติ
การถ่ายภาพแคนดิดนั้นมีสเน่ห์ในตัวเอง เพราะเป็นการถ่ายแบบไม่จัดฉาก แต่การถ่ายภาพแคนดิดนั้น
ต้องจับจังหวะดีๆ เพราะภาพแคนดิดดีๆ จะเกิดขึ้นในเพียงเวลานิดเดียวเท่านั้นเอง

เคล็ดลับ ควรเลือกใช้โหมดกล้องแบบ P เพราะโหมดนี้กล้องจะคำนวนรูรับแสงและความไวชัตเตอร์ให้โดยอัตโนมัติ จัดการให้เรียบร้อยพร้อมถ่าย

 ต้องบอกแฟนให้แอบขยันแคนดิดหน่อยและต้องไม่ให้เรารู้ตัว เพราะถ้าเรารู้ว่ามีกล้องถ่ายอยู่อาจจะทำให้เกร็ง
ภาพที่ออกมาก็จะดูไม่เป็นธรรมชาติ

เทคนิคที่ 7 เผลอแบบสวยๆ

หลังจากเมื่อกี้ที่เราเผลอแบบไม่ตั้งใจแล้ว คราวนี้เราจะมาเผลอกันแบบตั้งใจให้ดูไม่ตั้งใจ เอ๊ะ งงกันมั้ย
และการเผลอแบบตั้งใจนั้นมีเทคนิคง่ายๆ เลย คือการไม่มองกล้อง นั่นเอง จะหันไปมองทางอื่น
หรือทำท่าหลับตาหัวเราะแบบสวยๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน
เคล็ดลับ คือการไม่มองกล้องพร้อมโปรยยิ้มหรือหัวเราะค้างไว้

และอีกท่ายอดฮิตเลย คือ เงยหน้ารับสายลมแดดจะร้อนแค่ไหน หน้าจะไหม้ แอคติ้งเราก็ต้องออกมา
ให้ดูลมเย็นสบายมีความสุขจังเลย ภาพที่ออกมาก็จะฟินแบบนี้

เทคนิคที่ 8 รู้มุมสวยของแฟน

ข้อนี้ไม่ยากเลย แฟนเราน่าจะสังเกตุได้ว่าเราชอบถ่ายรูปมุมไหนบ่อยๆ
ชอบเอียงหน้าด้านซ้ายทำตาปรือจือปากอะไรก็ว่ากันไป
อย่างอ๊อฟเนี่ยต้องหันหน้าด้านนี้เท่านั้น ทำมุมองศาแบบนี้ เงยหน้านิดๆ เชิดคางหน่อยๆ
เคล็ดลับ อย่ากดหน้าต่ำจนเกินไปพยายามเชิดคางออกมาเล็กน้อย 
ถ้าแฟนไม่รู้มุมสวยเราก็ไม่เป็นไร เราก็โพสมุมสวยของเราที่เราถ่ายประจำ ฝึกหามุมสวยๆ หลายๆ มุม
ซ้อมโพสหน้ากระจกบ่อยๆ ก็ช่วยได้ค่ะ

เทคนิคที่ 9 รู้จักโพสท่าให้หลากหลาย

เพราะแฟนเราอาจไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ ที่จะมาคอยบอกให้โพสท่าโน้นท่านี้
ดังนั้นถ้าเรารู้จักโพสท่าให้หลากหลายก็จะได้ภาพสวยๆ

ดีกว่ายืนตรงๆ แข็งๆ ซึ่งท่าโพสแรกๆ อ๊อฟก็เขินอายจนบางครั้งออกจะเกร็งด้วยซ้ำ
แต่ถ้าเราทำบ่อยๆ นางแบบก็นางแบบเถอะต้องมีอาย

เคล็บลับ หา reference ใน pinterest,tumblr ,หรือไอจีเพื่อเป็นแบบในการโพสท่า

เทคนิคที่ 10 Make up is Magic

แน่นอนว่าจะถ่ายรูปให้ออกมาสวยนั้น ใช้แฟนถ่ายอย่างเดียวไม่ได้ แต่ใช้ไปซื้อเครื่องสำอางให้เราได้ 555 
การจะให้แฟนถ่ายรูปได้ง่ายนั้น เราก็ต้องช่วยแฟนด้วยเหมือนกัน นั่นก็คือ “การแต่งหน้า” นั่นเอง
แต่งหน้าอ๊อฟเชื่อว่าสาวๆ แต่งเป็นกันทุกคน และรู้ข้อบกพร่องบนใบหน้าของเราเองดี
การแต่งหน้าเป็นศิลปะไม่มีถูกไม่มีผิด อาศัยการฝึกฝน ยิ่งเปลี่ยนสีลิป สีตา อารมณ์ของภาพก็เปลี่ยน
จะแต่งใสๆ หรือแต่งแบบเปรี้ยวๆ ก็ยิ่งทำให้ภาพน่าสนใจ

อย่างอ๊อฟถ้ารู้ช่วงไหนน้ำหนักขึ้น แก้มก็จะออก หน้าก็จะเริ่มกลมดังนั้น อ๊อฟต้องเฉดดิ้งหน้าหนักมาก
เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นเวลาแฟนถ่ายออกมาจะได้ไม่โทษแฟนอย่างเดียวว่าทำไมถ่ายเราหน้าบาน
เราก็ต้องงัดเทคนิคแต่งหน้าออกมาช่วยแฟนด้วยเหมือนกัน