Category

Skincare

Category
สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟมีข่าวดีสำหรับคนผิวแห้งถึงแห้งมาก ต้องบอกก่อนว่าดีใจมว๊ากกก
เพราะตอนนี้ CeraVe มีขายที่ไทยแล้ว สมัยก่อนถ้าจะซื้อต้องพรีออเดอร์หรือฝากเพื่อนหิ้วมาจากอเมริกา
ซึ่งราคาก็ไม่ถูกเลย พอเห็นว่าทางพันทิปมีกิจกรรมดีๆ กับทาง CeraVe อ๊อฟเลยเข้าร่วมอย่างไม่ลังเล
เพราะจะได้บอกกับคนที่มีปัญหาผิวแห้งถึงผิวแห้งมากหรือผิวอ่อนแอ
ผิวเซนซิทีฟง่ายเหมือนอ๊อฟได้รู้จักแบรนด์ดีๆ ไว้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลผิว
CeraVe เป็นแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นมาโดยแพทย์ผิวหนังชั้นนำของอเมริกา
ซึ่งเน้นในเรื่องการบำรุงและเสริมความแข็งแรงรวมไปถึงการปกป้องผิว
ด้วยส่วนผสมของเซราไมด์สำคัญถึง 3 ชนิด และไขมันจำเป็นอื่นๆ
ควบคู่ไปกับเทคโนโลยี MVE ซึ่ง MVE หรือ Multivesicular emulsion เป็นเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์เลือกใช้
ในการนำส่งสารบำรุงเข้าสู่ผิวลักษณะจะเป็นรูปทรงกลมเป็นชั้นๆ ตามภาพ เวลาลงผิวก็จะค่อยๆ แตกตัว
และปล่อยสารบำรุงออกมาทีละชั้นอย่างช้าๆ นานๆทำให้สารเพิ่มความชุ่มชื้นต่างๆ อยู่ในผิว
ของเราได้ยาวนานมากขึ้น
ข้อดีอย่างหนึ่งของ CeraVe คือการใช้ Ceramide ทั้ง 3 ชนิด คือ Ceramide 1, Ceramide 3
และ Ceramide 6-II ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อเป็นเสริมการฟื้นฟู Barrier ผิวของเราได้อย่างลงตัว
และผลิตภัณฑ์ที่อ๊อฟคิดว่าเป็นตัวเด็ดตัวดังของแบรนด์ CeraVe เลยก็คือ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมอยเจอไรซ์เซอร์
เนื้อครีมและเนื้อโลชั่นที่สามารถทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายในราคาที่เราสามารถจับต้องได้
นั่นก็คือ CeraVe Moisturising Lotion For Dry to Very Dry Skin
ที่วันนี้อ๊อฟจะมารีวิวอย่างละเอียดให้เพื่อนๆ ได้ดูกันค่ะ
CeraVe Moisturising Lotion For Dry to Very Dry Skin เป็นตัว Moisturizing lotion
ที่มาในรูปแบบเนื้อโลชั่นมี 2 ขนาด คือ ขนาดเล็ก 88 ml และขนาดใหญ่ 473 ml  ซึ่งวันนี้ที่อ๊อฟจะมารีวิว
คือขนาดเล็ก 88 ml ค่ะ ลักษณะเนื้อโลชั่นเป็นสีขาว ซึ่งอ๊อฟจะบอกว่ามันเหมาะกับสภาพอากาศ
ของบ้านเรามากเพราะทาแล้วมันไม่เหนียวเหนอะหนะผิวเลย
เป็นเนื้อโลชั่นที่มีความเข้มข้นแต่เนื้อบางเบา ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ
ให้กับผิวเวลาทาจะไม่รู้สึกลื่นหรือเหนียวเหนอะหนะผิวเลยแม้แต่น้อย
สามารถที่จะเคลือบและเก็บกักความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
เป็นเหมือน Barrier อยู่บนผิว ไม่ถูกล้างออกไปโดยง่ายเมื่อโดนน้ำ
ก่อนที่จะไปดูผลลัพธ์ อ๊อฟอยากให้เห็นถึงสภาพผิวของอ๊อฟก่อน เห็นแล้วอย่าเพิ่งตกใจกันน้าาา
ต้องบอกก่อนเลยว่า อ๊อฟเป็นคนที่ผิวแห้งถึงแห้งมากที่สุดโดยเฉพาะบริเวณขา
เรียกได้ว่าแห้งแตกเป็นเกล็ดเป็นขุยเลย ไม่ว่าจะทาโลชั่นหรือทาออยล์ตัวไหนก็เอาไม่อยู่
ยิ่งถ้าหน้าหนาวไม่ต้องพูดถึงแตกจนเลือดออกซิบๆ เลย แถมที่นอนยังเต็มไปด้วยขุยขาวเลอะเทอะไปหมด T.T
ซึ่งวิธีการใช้โลชั่นก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ส่วนตัวอ๊อฟเป็นคนที่ผิวบริเวณขาแห้งมาก
ดังนั้นอ๊อฟจะเน้นช่วงขามากกว่าส่วนอื่นค่ะ ซึ่งปริมาณการทาก็ปกติเลย ไม่ได้ต้องใช้เยอะมากกว่าเดิม
เพราะโลชั่นเค้ามีความเข้มข้นและประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน
หลังจากที่อ๊อฟได้ใช้ CeraVe Moisturising Lotion จะเห็นได้ว่าผิวแห้งแตกและเป็นขุยหายไปแล้ว
หลังจากที่ทาโลชั่นเข้าไปผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย ซึ่งปกติเวลาอ๊อฟทาโลชั่นสักพัก
ผ่านไป 2-3 ชม. ต้องกลับมาทาซ้ำเพราะผิวจะกลับมาแห้งและแตกเหมือนเดิม แต่ CeraVe Moisturising Lotion
ไม่ต้องกลับมาทาซ้ำเลย หลังผ่านไป 24 ชม. ผิวยังคงชุ่มชื้นอยู่ ลูบไปก็ไม่มีขุยขาวๆ
ซึ่งอ๊อฟใช้โลชั่นตัวนี้เดี่ยวๆ เลย ไม่ได้ทาออยล์หรือทาครีมตัวอื่นเพิ่ม
คราวนี้มาดูกันว่าใช้ CeraVe Moisturising Lotion ต่อเนื่อง 1 อาทิตย์แล้วเป็นยังไงบ้าง
ฮือออออ….จะบอกว่าผิวดีขึ้นจากครั้งแรกมากเลย ทาไปแค่ 1 อาทิตย์เท่านั้น ผิวก็เนียนเรียบขึ้น ชุ่มชื่นมากขึ้น
ไม่แห้งแตกและเป็นขุยเหมือนแต่ก่อนแล้วดีต่อใจสำหรับคนผิวแห้งถึงแห้งมากที่สุดอย่างอ๊อฟมากจริงๆ
สรุปก่อนใช้และหลังใช้ CeraVe Moisturising Lotion จะบอกว่าอ๊อฟประทับใจมาก
จากที่เคยใส่แต่กางเกง กระโปรงขายาวเพราะอายที่ขาแห้งแตกเป็นขุย ตอนนี้พอได้มาใช้เซราวีทำให้อ๊อฟมั่นใจ
ที่กล้าโชว์และเผยผิวมากขึ้นกว่าเดิมมากเพราะใช้แล้วผิวชุ่มชื่นขึ้นกว่าเก่ามาก ยิ่งใช้เป็นประจำทำให้เห็นชัดเลย
ว่าผิวแข็งแรงขึ้น เรียกได้ว่าชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชม. จริงๆที่สำคัญนอกจากจะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
แล้วเหตุผลหลักที่อ๊อฟคิดว่ามีผลต่อการตัดสินใจอีกอย่างก็คือเนื้อโลชั่นสัมผัสดีงามมากกกก
ไม่เหนียวเหนอะหนะและอ่อนโยนต่อผิว เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ อย่างบ้านเรามาก
สุดท้ายท้ายสุด สำหรับใครที่มองหาสกินแคร์คุณภาพดี ราคาน่ารัก อ๊อฟอยากฝาก CeraVe ไว้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์
อยากให้ลองใช้กัน ลองไซส์เล็กแล้วจะติดใจอยากวิ่งไปซื้อไซส์ใหญ่ สำหรับเพื่อนๆ ที่ผิวแห้งเหมือนอ๊อฟ
บอกเลยว่าตัวนี้มันเวิร์คมาก ซื้อไปไม่เสียดายสะตุ้งสตางค์แน่นอน
หาซื้อได้ที่ Watsons, Boots, Eveandboy, Beautrium, ร้านขายยา
และโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไป ช้อปออนไลน์ทาง @Lazada ก็มีน้าาาา
สวัสดีค่ะ หลังจาก Blog ที่แล้วที่อ๊อฟเพิ่งรีวิวตัว Cetaphil Gentle Skin
Cleanser ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
ก็มีคนถามเข้ามาเยอะมากว่า แล้วรีวิวสำหรับคนผิวมันบ้างล่ะ คนเป็นสิวล่ะ
ไม่มีบ้างหรอ วันนี้อ๊อฟเลยจัดรีวิว Cetaphil Oily Skin
Cleanser สิ่งจำเป็นสำหรับผิวมันและบอบบางแพ้ง่ายมาให้ตามคำขอค่ะ
Cetaphil Oily Skin Cleanser คลีนเซอร์สำหรับคนผิวมัน
เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสำหรับผู้ที่มีผิวมัน
หรือผิวที่เกิดสิวง่าย ตัวนี้เค้าช่วยขจัดความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรกและสิ่งที่
ไม่จำเป็นบนใบหน้าได้อย่างอ่อนโยน คงเหลือแต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับผิวจริงๆ
ทั้งยังผ่านการวิจัยมาแล้วว่าช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า
ได้จริงถึง 54% (Chris T. McAllister, et. al., Clinical Assessment of a
Cleanser for Moderately Oily Acne-Prone Skin, 1997) 
อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสของการเกิดสิวได้อีกด้วยค่ะ
ตัวเนื้อคลีนเซอร์เป็นเจลใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอมและส่วนผสม
ของแอลกอฮอลล์แถมยังมาพร้อมกับค่า pH 5.5 มีความเป็นกรดอ่อนๆ
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
คลีนเซอร์ขวดนี้สามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้  ดังนั้นใครที่ใช้พวกเจล
แต้มสิวหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เป็นสิวตัวนี้ใช้ร่วมกันได้แน่นอนค่า
ด้วยนวัตกรรมสูตร Gentle Foaming Action ช่วยลดความมันส่วนเกิน
สิ่งสกปรกและคราบเครื่องสำอางบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึก
อ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวเพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่า
แม้แต่คนผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ยังใช้ได้ ปลอดภัยหายห่วงค่ะ
ที่สำคัญตัวนี้เค้ามีมอยเจอร์ไรเซอร์ Glycerin และ Panthenol (วิตามิน B5)
ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำไว้ที่ผิว ช่วยให้ผิวไม่แห้งตึง
หลังจากที่เราล้างหน้าเสร็จ พอเราล้างหน้าเสร็จแล้วยังนุ่มชุ่มชื้น
จะทำให้หน้าไม่กลับมามันแล้วมันอีก ตัดวงจรหน้ามันซ้ำซากค่ะ
หลังจากหลังหน้าเสร็จรู้สึกได้เลยว่า
“ผิวสะอาดและเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้น
ลูบไปแล้วไม่ดังเอี๊ยดหรือรู้สึกตึงที่ผิวหน้า “
สำหรับใครที่เป็นสิวอุดตัน สิวผด สิวอักเสบสามารถใช้ตัวนี้ได้
ไม่ต้องกลัวแพ้เลยค่ะ
สามารถหาซื้อ Cetaphil Oily Skin Cleanser ขนาด 125 ml.
ได้ที่ Watsons / Boots / Eveandboy
และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป ในราคาราคา 500 บาทค่ะ
และยังมีขนาดจิ๋ว 29 ml. หาซื้อได้ที่เซเว่นอีเลฟเว่น
ในราคา 109 บาทด้วยนะคะ
ฝุ่นเยอะๆ แบบนี้อย่าลืมมาดูแลผิวกันค่ะ
สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟจะมาพูดถึงคลีนเซอร์สำหรับล้างหน้า และถ้าหากพูดถึงคลีนเซอร์สำหรับล้างหน้า
ที่เหมาะสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่ายในดวงใจของใครหลายๆ คนแล้ว
อ๊อฟเชื่อว่า 1 ในนั้นต้องมี Cetaphil Gentle Skin Cleanser แน่นอน
Cetaphil ถูกคิดค้นมาสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจำเป็นสำหรับการดูแลผิวจริงๆ
ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือส่วนผสมของน้ำหอมและผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
จึงอ่อนโยนและปลอดภัยเพราะได้รับการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังทั่วโลก
พร้อมการันตียอดขายอันดับ 1 อีกต่างหาก
Cetaphil Skin Gentle Cleanser เป็นเจลล้างหน้าที่มีคุณสมบัติเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย
เป็นสูตรอ่อนโยนที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ส่วนตัวอ๊อฟว่าค่อนข้างเหมาะกับคนที่ผิวแห้งและแพ้ง่ายนะคะ
เนื่องจากไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ แถมยังมีค่า pH Balance ใกล้เคียงกับผิวหนังตามธรรมชาติ
เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเจลสีขุ่น ๆ ไม่มีกลิ่น มีความลื่นนิดๆ เนื่องจากเขามี Moisturizing Film
ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวและลดการเสียดสีของผิวอีกด้วย
นอกจากใช้เป็นเจลล้างหน้า หรือ เจลอาบน้ำแล้ว เรายังสามารถใช้เป็น Makeup remover ได้เลย
ในขณะที่หน้ายังแห้งอยู่นะคะอ๊อฟว่าเหมาะมากสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย
แค่ใช้ตัวเดียวคือจบไม่ต้องรบกวนผิวหลายรอบ
นอกจากไซส์ใหญ่แล้ว Cetaphil เขายังเอาใจคนที่ชอบเดินทางออกแบบไซส์เล็กขนาดพกพา
สะดวกพกง่าย ขึ้นเครื่องก็ได้ หากใครสนใจไซส์ใหญ่สามารถลองซื้อลองดูได้ที่ Watson / Boots
และร้านขายยาชั้นนำทั่วไปเลยค่ะ ส่วนไซส์เล็กสามารถหาซื้อได้ที่ 7-11 ค่า
อย่าลืมมาดูแลผิวกันนะคะ 

สวัสดีค่ะ อ๊อฟกลับมาอีกครั้งกับการทำรีวิวแฮนด์ครีม

ที่ค้นไปค้นมามีถึง 20 ยี่ห้อเลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นผู้หญิงมือเหี่ยว

มือหยาบและแห้งกร้าน แถมมือยังด้านอีกต่างหาก

ชอบขุดดินทำสวน ล้างจาน ล้างห้องน้ำแบบไม่ใส่ถุงมือ

เลยทำให้มือเหี่ยวกว่าหน้าอีก อายุ 32 แต่มือปาไป 40

คราวนี้เลยต้องบำรุงอย่างหนักเรียกได้ว่าติดครีมทามือมากกก

ต้องมีติดตัวตลอด วันนี้เลยจะมารีวิวให้สาวๆ ได้ดูกัน

 

วันนี้เลยจะมารีวิวความรู้สึกหลังใช้ผลิตภัณฑ์สบู่โพรเทคส์ ไทย เทอราพี สูตรมะเขือเทศ วิตามิน C&E มินิ 4
ให้ได้ดูกันค่ะ รีวิวตามแบบฉบับอ๊อฟจะเป็นยังไงกันบ้างตามไปดูกันเล๊ยยยย
สบู่โพรเทคส์ ไทย เทอราพี สูตรมะเขือเทศ วิตามิน C & E มินิ 4 (ขนาด 30 กรัม X 4 ก้อน)
ผสานคุณค่าจากธรรมชาติของมะเขือเทศ วิตามินซี และ อี ช่วยทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใส
ถนอมผิวให้นุ่มชุ่มชื่นอ่อนเยาว์ อีกทั้งมอบฟองนุ่มละเอียด ทำความสะอาดสิ่งสกปรก
เพื่อผิวสะอาดเกลี้ยงเกลา แลดูกระจ่างใส มีสุขภาพดีตามที่คุณต้องการ
ทางแบรนด์เคลมสรรพคุณมาอย่างนี้ มีหรอที่อ๊อฟจะไม่ทำการทดสอบให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน
เริ่มกันที่แพคเกจจิ้งกันก่อนเนอะ ลักษณะแพคเกจก็เป็นกล่องพลาสติกใสมีพรีเซนเตอร์สุดสวย
คือคุณหญิง รฐา นั่นเองแต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ “
ข้างในเค้าแบ่งออกเป็น 4 ก้อนเล็กๆ ” (มินิ 4 แบ่งใช้สะดวก)
พอแกะออกมาก็จะเป็นสบู่ก้อนเล็กๆ ที่บรรจุอยู่ในซองพลาสติกเรียงติดกัน 4 ชิ้น
ซึ่งสามารถแบ่งออกมาที่ละห่อได้เป็นสบู่ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ถ้าจมูกของอ๊อฟไม่เพี๊ยน
กลิ่นมันจะออกแนวฟลอรัล ซึ่งหอมอ่อนๆ กำลังดี
ซึ่งข้อดีของมินิ 4* ก็คือ สามารถแบ่งใช้ได้สะดวกมว๊ากกก ยิ่งเวลาที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหน
พกแค่ซองเดียวก็พอประหยัดเนื้อที่กระเป๋า หยิบใช้งานง่าย สะดวกสบายสุดๆ
ขนาดของสบู่ก็เป็นก้อนเล็กๆ ซึ่งเล็กกว่าฝ่ามือของอ๊อฟค่อนข้างเยอะเลยและก็บางกว่าสบู่ก้อนธรรมดาทั่วไปค่ะ
มาดูกันที่ฟองของสบู่ ถ้าถูด้วยมือธรรมดาฟองจะค่อนข้างใหญ่และมีปริมาณฟองที่พอดี
แต่ถ้าใครชอบฟองเยอะๆ สามารถใช้ตาข่ายตีฟองได้ค่ะ ฟองที่ได้ก็จะเนียนนุ่มละเอียดและมีปริมาณเยอะขึ้น
ส่วนตัวอ๊อฟชอบใช้ถุงตาข่ายเอามาใส่สบู่และตีฟอง ฟองเยอะๆ ถูตัวเพลินดีค่ะ
เรื่องแรกที่อ๊อฟจะทดสอบเลย คือ ” การตรวจสภาพความชุ่มชื้นของผิว “
ซึ่งปกติเวลาเราใช้สบู่ก้อนไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าและผิวกาย เมื่อล้างสบู่ออกผิวจะค่อนข้างแห้งตึง
เพราะปกติสบู่ก้อนที่เราใช้ทั่วไปจะชำระล้างความมันและความชุ่มชื้นของผิวหนังออกจนหมด
สภาพผิวของอ๊อฟก่อนใช้สบู่โพรเทคส์ ไทย เทอราพี สูตรมะเขือเทศ วิตามิน C & E มินิ 4
อ๊อฟเป็นคนที่ผิวค่อนข้างแห้ง ยิ่งช่วงหน้าหนาวผิวจะแห้ง ลอกแตกเป็นขุย บางครั้งเผลอไปเกายังขึ้นเป็นริ้วขาวๆ
พอใช้เครื่องตรวจสภาพผิวถึงได้รู้ว่าปริมาณน้ำหรือความชุ่มชื้นของผิวของอ๊อฟน้อยมากกกก T.T
ได้เวลาอาบน้ำแล้ววววว นั่นแน่…คิดอะไรอยู่ ให้ดูแค่แขนพอเนอะ เดี๋ยวจะต้องขึ้นเตือน 18+
วิธีใช้สบู่ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเลยค่ะ ไม่รู้จะแนะนำยังไงแค่ทำให้ผิวและสบู่เปียก
หลังจากนั้นก็ถูๆๆ แล้วล้างออกให้สะอาดค่ะ ซึ่งเห็นฟองเยอะขนาดนี้แต่เวลาล้างออกก็ไม่ยากเลยค่ะ
หลังจากที่ใช้สบู่โพรเทคส์ ไทย เทอราพี สูตรมะเขือเทศ วิตามิน C & E มินิ 4 เราจะมาทำการเช็คสภาพผิวกันค่ะ
และผลลัพธ์ที่ได้คือ ” ความชุ่มชื้นและน้ำมันที่ผิวของอ๊อฟเพิ่มขึ้นทันที ” เพิ่มขึ้นจากเดิมเยอะเลย
ลูบผิวไปก็ไม่แห้งตึงรู้สึกได้เลยว่าผิวนุ่มลื่นและชุ่มชื้นขึ้น สำหรับคนที่ผิวแห้งแบบอ๊อฟ
แนะนำให้ชโลมออยให้ทั่วตัวและทาโลชั่นเพิ่มค่ะ
ต่อมาคือ ” เรื่องความกระจ่างใส ” ปกติอ๊อฟไม่ได้เป็นคนที่อินกับอะไรที่ทำให้ผิวขาวอยู่แล้ว
เพราะค่อนข้างพอใจในสีผิวเดิมของตัวเอง แต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะหลังจากที่ลองใช้เพียงแค่ครั้งแรก
” ผิวสว่างกระจ่างใสขึ้นทันที ” ไม่รู้จะพูดยังไงให้ดูตามภาพเลย สีของแขนทั้งสองข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
มันไม่ได้ขาวแบบคนผิวคล้ำไปเป็นคนขาวนะ คือผิวมันใสขึ้น สว่างขึ้นมากกว่า
ซึ่งอาจจะเพราะอ๊อฟทาโลชั่นบำรุงผิวและออกไปโน่นนั้นนี่โดนฝุ่นโดนมลภาวะต่างๆ
พอมาทำความสะอาดผิวด้วยสบู่โพรเทคส์ ไทย เทอราพี สูตรมะเขือเทศ วิตามิน C & E มินิ 4
พวกคราบสิ่งสกปรกหรือขี้ไคลเลยหลุดออกไป ผิวจึงขาวหรือสว่างขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งถ้าอยากให้ผิวขาวจริงๆ นั้นต้องทาครีมกันแดด โลชั่นบำรุงผิว หลบเลี่ยงแสงแดด ทานวิตามิน
หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีและอี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องใช้เป็นประจำสม่ำเสมอด้วยนะคะ
ไม่ใช่ใช้แค่วันสองวันแล้วบอกไม่เห็นผล ทุกอย่างต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูและบำรุงทั้งนั้นเนอะ
ต่อมาเรื่องที่อ๊อฟจะพิสูจน์เรื่องสุดท้ายคือ ” เรื่องประสิทธิภาพการทำความสะอาด “
วันนี้อ๊อฟแต่งหน้าและใช้เครื่องสำอางปกติคือมีทั้งครีมกันแดด รองพื้น ดินสอเขียนคิ้วและอายไลเนอร์แบบกันน้ำ
ซึ่งปกติถ้าจะต้องทำความสะอาดหน้าก็จะต้องใช้ make up remover เช็ดทำความสะอาดก่อน
แต่วันนี้บอกแล้วว่าจะทำการทดสอบเรื่องความสะอาดเน้นๆ
เลยใช้แค่สบู่โพรเทคส์ ไทย เทอราพี สูตรมะเขือเทศ วิตามิน C & E มินิ 4 พอค่ะ
ฮือออ…..มันดีมากอะ ล้างแค่แปปเดียวก็ทำความสะอาดได้หมดเลย ไม่มีคราบคสอ. หลงเหลืออยู่เลย
ที่สำคัญไปกว่านั้นใช้แล้วผิวหน้าไม่แห้งตึงด้วย ลูบไปผิวหน้ายังคงนุ่มลื่นอยู่เลย แต่ถ้าใครที่แต่งหน้าจัด
หรือใช้คสอ.กันน้ำที่ล้างออกยากๆ และคิดว่าการทำความสะอาดเท่านี้ไม่เพียงพอ สามารถใช้คลีนซิ่ง
เช็ดทำความสะอาดผิวเพิ่มได้ค่ะ ส่วนตัวอ๊อฟใช้มาระยะนึงสิวไม่ขึ้นแล้วก็ไม่มีการแพ้ค่ะ
หลังจากล้างหน้าเสร็จก็บำรุงผิวตามขั้นตอนปกติได้เลยค่ะ
สรุปๆๆๆ สบู่โพรเทคส์ ไทย เทอราพี สูตรมะเขือเทศ วิตามิน C & E มินิ 4

ทำความสะอาดผิวได้ค่อนข้างดี ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสและช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นจริง!!!!

สำหรับใครที่ดูรีวิวมาเยอะ บอกเลยว่ากำเงิน 48 บาทเข้า 7/11 แล้วไปซื้อเถอะไม่เสียดายสะตุ้งสตางค์แน่นอน

สวัสดีค่า วันนี้อย่างแรกเลยต้องเล่าก่อนว่าช่วงเดือนที่ผ่านมาเป็นเดือนที่อ๊อฟต้องออกไปถ่ายงาน outdoor
หลายที่มาก โดนแดดรัวๆ ถึงจะทาครีมกันแดดแต่ก็รู้สึกว่าหน้าคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด แถมพอออกไปข้างนอก
มีเหงื่อเยอะขึ้น พอสิวขึ้นก็มีรอยดำ รอยแดง ฝ้ากระบางๆ ที่เคยมีบ้างก็เข้มขึ้นนิดหน่อย
พอมองหน้าตัวเองทุกวันนี้เห็นเลยว่า ตัวเองรู้สึกโทรมขึ้น
ด้วยความเป็นคนชอบหาข้อมูล ก็พยายามหาว่าอะไรมันน่าจะดี แต่พอหาเรื่องผลิตภัณฑ์
กลุ่มลดรอยดำ whitening จะพบว่ามันมีเยอะมาก วันนี้เลยอยากจะเอาข้อมูลที่ตัวเองหามา
ในช่วงนี้จนเจอผลิตภัณฑ์ที่รู้สึกว่าโอเคมาแบ่งเพื่อนๆ กันค่ะ

เริ่มแรกเลยจากที่อ๊อฟลองหาข้อมูลมา ขอสรุปเป็นข้อๆ เลยนะคะ
ว่าการจะเลือกกลุ่ม whitening ซักตัวเราต้องดูอะไรบ้าง
1. Whitening กับ ผลิตภัณฑ์กลุ่มลดรอยดำเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มเดียวกัน แต่ถ้าจะหวังผลลดรอยดำด้วย
อาจจะต้องหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เข้มข้นและเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพมากกว่าปกติ
เพราะถ้าแค่ whitening บางทีลดเม็ดสีนิดหน่อยก็อาจจะเริ่มๆ ดูสว่างขึ้นได้ แต่ถ้าจัดการจุดด่างดำ
บางทีจะเห็นผลน้อยต้องเลือกตัวที่ส่วนผสมเชื่อถือได้จริงๆ
2. ส่วนผสมกลุ่ม whitening มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มผลัดเซลล์ผิวเช่น AHA
กลุ่มนี้จะไม่ได้ลดเม็ดสีโดยตรงแต่จะผลัดเซลล์ผิวเก่าๆ ออก
กับอีกกลุ่มจะเป็นตัวที่ลดเม็ดสีที่ขนส่งมาสู่ผิวชั้นบนค่ะ
3. ส่วนผสมเครื่องสำอางจริงๆก็คล้ายๆยาแต่กฎเกณฑ์จะน้อยกว่าพูดง่ายๆ คือยาต้องพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง
แต่พวกเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ขอแค่ไม่มีส่วนผสมอันตรายก็จำหน่ายได้
เราต้องเป็นคนเลือกเองว่าจะเลือกโดนตัวที่มีประสิทธิภาพหรือไม่
4. ซึ่งหลักเกณฑ์การดูว่าอะไรมีประสิทธิภาพมั้ยเอาให้ชัวร์สุด คือ ควรมองหาส่วนผสมที่มีงานวิจัย
ทางวิทยาศาสตร์รองรับยิ่งเป็นงานวิจัยที่ได้ตีพิมพ์ลงวารสารทางการแพทย์หรือวารสารของแพทย์ผิวหนังยิ่งดีค่ะ
เพราะจะช่วยการันตีว่าส่วนผสมนั้นหวังผลได้จริงและการได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ก็จะดีกว่าเป็น
การวิจัยของบริษัทผลิตส่วนผสมเอง จะบอกว่าพอหาข้อมูลได้ประมาณนี้แล้วคือหายากมากกก
กว่าจะเจอตัวที่โอเคจริงๆ เพราะส่วนผสม whitening เนื่องจากมันขายได้ จะมีส่วนผสมเยอะมากเป็นร้อยตัว
แต่ส่วนผสมที่มีหลักฐานยืนยันว่ามีประสิทธิภาพจริงคือมันมีไม่เยอะ ต้องหาดีๆว่ามีใครเอามาใช้บ้าง
แต่พอดีอ๊อฟไปเจอกับตัวนึงน่าสนใจมาก ที่น่าสนใจ คือเค้ารวมเฉพาะส่วนผสมที่มีงานวิจัยจริงๆ
คัดเน้นๆตัวที่ประสิทธิภาพสูงสุด แล้วได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ หรือมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
พิสูจน์แล้วจริงๆ เอามาใช้แต่คือไม่ได้ใส่แค่ตัวเดียว แต่ใส่มา 6 ส่วนผสม
คือหลายคนอาจจะงงว่าใส่มาทำไมเยอะเเยะ ย้อนกลับไปที่อ๊อฟเล่านะคะว่ากลไกของส่วนผสมพวกนี้
คือลดเม็ดสี แต่การลดเม็ดสีมันเป็นกลไกย่อยๆ
ไอเจ้าผลิตภัณฑ์ตัวนี้เค้าเอา 6 ส่วนผสมมาทำงานร่วมกันทำงานคนละกลไกเลยเสริมกัน
อันนี้อ๊อฟแปะรูปจากทางแบรนด์ไว้นิดนึง คือตัวเองก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด
แต่เข้าใจคร่าวๆว่า มันไปจัดการหลายๆกลไก ที่พิเศษคือ ทุกส่วนผสมมัน prove แล้วตีพิมพ์แล้วจริงๆ ว่าได้ผล
มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ไม่ต้องไปลุ้นเอาเองว่าได้ผลมั้ย ส่วนผสมที่เน้นๆ ว่าพิเศษคือมีหลายตัว
แต่เนื่องจากอ๊อฟไม่ใช่สายส่วนผสมเท่าไหร่ เลยมีตัวที่อ่านๆแล้วรู้สึกดีมากๆอยู่ 3 ตัวค่ะ คือ
1. Butylresorcinol ตัวนี้คือลองเปิดดูงานวิจัยที่เกาหลีกับญี่ปุ่นทำแล้วคือเค้าวิจัยเรื่องฝ้าที่ปกติจางยากมาก
แล้วคือมันจางลงดีมาก ส่วนผสมนี้เลยเหมือนเป็นพระเอก เลยโดยเฉพาะรอยดำที่จางยากๆ
2. PKEK peptide อันนี้คือ กลไกมันน่าสนใจมากโดยเฉพาะคนที่มีสิว รอยดำสิว คือปกติ เวลาสิวหรือการอักเสบ
มันจะไปกระตุ้นรอยดำ แล้ว whitening มันจะไปกดเม็ดสีที่สร้างมาแล้ว แต่สารตัวนี้มันไปยับยั้งตั้งแต่เกิดการ
อักเสบ ลดการกระตุ้นรอยดำตั้งแต่ต้น ทำให้หลังเกิดสิวโอกาสเกิดรอยดำน้อยลงและลดรอยแดงได้ด้วย
3. ตัวสุดท้ายที่ไม่พูดไม่ได้คือ Sepiwhite จริงๆสารตัวนี่มีการใช้ใน SK-II มาซักพักแล้ว แต่การใช้กับพวกสาร
ตัวอื่นๆ หลายตัวยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ ความพิเศษคือ กลไกมันจะไปยับยั้งในระดับแรกเริ่มมากกว่า
ส่วนผสมตัวอื่นๆ ผลลัพธ์ด้าน whitening มีการวัดเทียบกับพวก arbutin kojic ซึ่งเป็นสาร whitening ตัวเก่าๆ
แล้วเหนือกว่า ที่ทำให้อ๊อฟสนใจคือ มีงานวิจัยช่วยลดกระแดด ซึ่งปกติกระแดดเอาจริงๆทาครีมยังไง
ก็ไม่จางแต่ sepiwhite เป็นตัวเดียวเลยที่มีงานวิจัยเรื่องนี้
สำหรับส่วนผสมอื่นๆอีก 3 ตัว คือเป็นส่วนผสมที่ดีทุกตัว โดยรวมคือทำงานส่งเสริมกัน
ทำให้การลดจุดด่างดำทำได้ดีขึ้น และช่วยเรื่องความกระจ่างใสโดยรวมด้วย
 และเทคโนโลยีพิเศษอีกตัวที่เค้าใช้คือ Cationic Targeting Technology คือ เทคโนโลยีที่เพิ่มความสามารถ
ในการออกฤทธิ์ของส่วนผสมช่วยจัดการจุดด่างดำให้ล้ำลึกยิ่งขึ้นด้วยการใช้ไลโปโซมประจุบวกที่สามารถ
ซึมซาบสู่เซลล์ผิวที่มีประจุลบได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ส่วนผสมตรงเข้าสู่เป้าหมายและปลดปล่อยส่วนผสม
ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างล้ำลึกและตรงจุด
แพคเกจจิ้งเป็นขวดปั๊มแบบสุญญากาศสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน
ทำให้เราสามารถควบคุมปริมาณของเซรั่มได้
(GENWHITE 30 ML 1,290 บาท)
ตัวเนื้อเซรั่มเป็นสีขาวขุ่น ค่อนข้างเข้มข้น ซึมไวและไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว
มีกลิ่นของผลิตภัณฑ์อ่อนๆ คาดว่าน่าจะเป็นจากส่วนผสม คนที่กลัวแพ้สบายใจได้เลย
เพราะปราศจากนํ้าหอม พาราเบน และสารก่อความระคายเคืองให้กับผิว
วิธีใช้  ตัวนี้ใช้ทาเป็นตัวแรกหลังจากที่เราล้างหน้าเสร็จ (เช้า – เย็น)
ทาให้ทั่วใบหน้าหลังจากนั้นก็ทาครีมบำรุงตัวต่อไปได้เลยค่ะ
มาดูสภาพผิวหน้าของอ๊อฟกันก่อนเนอะ อ๊อฟเป็นคนที่มีผิวหน้าค่อนข้างแห้ง ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น
ถ้าเลือกครีมบำรุงไม่ดีหรือสกินแคร์ที่มีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอก็จะทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่าย
ส่วนตัวอ๊อฟไม่ค่อยเป็นสิวเท่าไหร่ จะเป็นก็ช่วงวันนั้นของเดือน ปัญหาที่เห็นชัดที่สุดคือ รูขุมขนกว้าง
รอยกระจุดเล็กๆ บริเวณแก้มและรอยแดงของสิวที่ทิ้งรอยไว้หลังจากหมดประจำเดือน
หลังจากการทดลองใช้มาเป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม จะเห็นว่าพวกรอยกระและรอยดำรอยแดงจากสิว
ดูจางลง สีผิวดูสม่ำเสมอและแข็งแรงมากขึ้น ที่สำคัญรูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วยแหละ
ซึ่งคือจากรูปอ๊อฟดูเองแล้วยังรู้สึกแบบชอบผิวตัวเองมาก มันดูสว่างๆ กระจ่างใสขึ้น
แล้วถ้าซูมดูคือจุดด่างดำมันจางลงไปเยอะมาก จนรู้สึกว่าอ๊อฟจะขาดเจ้าตัวนี้ไม่ได้แน่ๆ
อีกเรื่องที่เห็นได้ชัดนอกจากความกระจ่างใสและจุดด่างดำ คือ รู้สึกผิวดีขึ้นมาก คือมันเนียนขึ้น
รูขุมขนเล็กลง หน้าดูเนียนๆ เหมือนมันดูดีขึ้นแบบบอกไม่ถูก 555

สรุปเลยละกัน สำหรับอ๊อฟอาจจะไม่ได้เก่งในเรื่องของการวิเคราะห์ส่วนผสม แต่หลังจากที่ได้ทดลองใช้
เจ้าตัว KENE GENWHITE ถือว่าเป็นเซรั่มที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยดำรอยแดงจากสิว
ที่เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนเมื่อใช้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จุดแข็งที่เด่นมากๆ คือ การใช้ส่วนผสมที่คัดมาแล้วจริงๆ
ทุกตัวคือมี paper ยืนยันหมด ไม่แปลกใจที่ผลลัพธ์มันดีมาก คือรู้สึกจริงๆ ว่าจุดด่างดำมันหาย
เทียบจากรูปคือเห็นชัด ไม่ได้คิดไปเองตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากทำหน้าที่ในเรื่องลดเลือนจุดด่างดำได้ดีแล้ว
ผลพลอยได้จากการใช้เซรั่มยังทำให้ผิวหน้าแข็งแรงดูใสขึ้นอีกด้วยเพราะเค้ามีส่วนผสมของสารบำรุงฟื้นฟู
ผิวอีกเยอะมาก ที่อ๊อฟไม่ได้พูดถึงเช่นพวก ceramide, anti-oxidant ยังไงอ๊อฟว่าถ้าใครมีปัญหาหน้าหมองคล้ำ
จุดด่างดำ แล้วหนักใจมากใช้อะไรก็ไม่ดี  อ๊อฟว่าตัวนี้เป็น the must have
ต้องลองดูจริงๆ ลองดูนะคะ แต่อ๊อฟว่ามันเวิร์ค
ติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตามด้านล่างเลยค่ะ

 

สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการทำรีวิวรวบรวมของดีของเด็ดมานาน ตอนนี้อ๊อฟกลับมาแล้วววว
กลับมาพร้อมกับการรวบรวมสครับผิวหน้าและผิวกายที่มีมากถึง 20 ยี่ห้อ ที่ใช้แล้วผิวเนียนสว่างกระจ่างใส
ซึ่งแต่ละตัวนั้นอ๊อฟใช้มาตลอด อย่างผิวกายอ๊อฟสครับอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ส่วนผิวหน้าบางครั้งก็สครับวันเว้นวัน
ต้องบอกก่อนเลยว่าอ๊อฟไม่ใช่คนผิวขาว เป็นผู้หญิงผิวสองสีจะมาให้ขัดแล้วเปลี่ยนเป็นผิวขาวเลยคงไม่ได้
แต่ผลลัพธ์ที่อ๊อฟใช้เป็นประจำคือ ผิวสว่างขึ้น ใสขึ้น เนียนนุ่มขึ้น พวกข้อศอก ตาตุ่ม หัวเข่าที่หยาบกร้าน
สีคล้ำๆ ก็ดูสว่างขึ้นทั้งนี้ทั้งนั้นต้องทาครีมกันแดด โลชั่นบำรุงผิวและหลีกเลี่ยงแสงแดดอยู่เสมอด้วยนะคะ
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปดูสครับหมวดผิวหน้ากันเลยค่า

เริ่มกันที่สครับผิวหน้า มาส์กมะขามเขาค้อทะเลภู X คุณแม่สายป่าน Beauty Blogger ตัวแม่ของวงการ
เป็นมาส์กมะขามที่ดีจริง ดีแบบไม่พูดเยอะ เจ็บคอ เด็ดตรงใช้เนื้อมะขามสดแท้ๆ ไม่ใช่แค่สารสกัด
พกพาง่ายสะดวกสบาย ราคาน่ารัก เนื้อมาส์กมะขามเนียนนุ่มไม่ต้องมาผสมน้ำ สครับเบาๆ ให้ทั่วหน้า
ทิ้งไว้สัก 15-20 นาทีแล้วล้างออก คุณเอ๊ยยยย ผิวสว่างขึ้นเลย แถมลูบผิวแล้วยังเนียนนุ่มมากอีกด้วย
อ๊อฟมาส์กที่เดียวหมดเลยพอกหนาๆ ไม่เก็บไว้ค้างคืนเพราะต้องการความสดใหม่ของมาส์ก
ราคา 25 บาท ซื้อที่ WATSONS ให้ 10/10 คะแนน

มาต่อตัวที่สอง St. Ives แบรนด์สครับผิวอันดับ 1 จากอเมริกา เป็นสครับผิวที่มีความหอมมากกกก
คืออ๊อฟชอบสูตรนี้เป็นพิเศษ เวลาหน้าหมองคล้ำมาใช้ตัวนี้ผิวสว่างขึ้นใสขึ้นเลยสำหรับสูตร Radiant Skin
Pink Lemon & Mandarin Orange Scrub สครับพิงค์เลม่อนและส้มแมนดาริน เนื้อสครับเนียนละเอียด
ไม่บาดผิวเลยสครับช่วงจมูกกำจัดสิวเสี้ยนได้ดีมาก แถมสครับทั่วหน้ายังไม่ระคายเคืองเลย จริงๆ ใช้ได้ทั้ง
ผิวหน้าและผิวกายแต่อ๊อฟงกเลยใช้แค่ผิวหน้าพอ ไม่งั้นหลอดเดียวไม่พอแน่ๆ 555 นอกจากเนื้อสครับ
จะเนียนละเอียดแล้วยังหอมกลิ่นแบบฟรุตตี้ให้ความสดชื่นได้ดี ล้างเสร็จผิวเนียนนุ่ม กลิ่นหอมติดผิวเว่อร์
หักตรงล้างตัวสครับยากไปนิดเหมือนล้างแล้วแต่เม็ดสครับยังหลงเหลือติดหน้าอยู่
ราคา 299 บาท ซื้อได้ที่ Watsons ให้ 9/10 คะแนน

ถัดมาเป็น BK Jelly Ball Clearly Brightening Gentle Scrub สครับเจลจากพืชธรรมชาติ 100%
อุดมด้วยด้วยสารบำรุงผิวจากพืช 6 ชนิด ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำและเสื่อมสภาพให้หลุดออก
เป็นสครับเนื้อเจลที่เนื้อเนียนละเอียดมาก ย้ำว่าเนียนมากจริงๆ สครับหน้าแล้วไม่ระคายเคืองไม่บาดผิว
แม้แต่นิดเดียวเรื่องความขาวใสอาจจะไม่ได้เห็นผลชัดเจน แต่เรื่องความชุ่มชื่นและปลอบประโลมผิว
อ๊อฟว่าทำได้ดีมาก สครับแล้วรู้สึกสะอาดสบายผิว ล้างออกผิวก็ไม่แห้งตึงอีกด้วย
ราคา 239 บาท ซื้อได้ที่ Shopee ให้ 8/10 คะแนน
มาถึงของดีของไทย ครีมมาส์กมะขามผสมกาแฟตราแม่แสงดี ยี่ห้อเดียวกับที่อ๊อฟใช้ขัดตัวแต่ตัวนี้เพิ่มกาแฟ
เข้ามาผสมกับมะขาม เนื้อมาส์กมะขามจะเป็นมาส์กแน่นๆ ต้องนำมาผสมน้ำหรือใช้ขณะที่หน้าเปียก
ถึงจะนวดสครับผิวได้ แอบชอบตัวมาส์กของเขาค้อภูทะเลมากกว่าเพราะใช้งานง่ายนวดสครับได้เลย
ไม่ต้องมาผสมน้ำ มาส์กเสร็จแล้วล้างออกจะสัมผัสได้ว่าหน้าเรียบเนียนขึ้น ผิวสว่างและใสขึ้น
โดยรวมก็ถือว่าเป็นของถูกและดีที่มีไว้ก็ไม่เสียหาย
ราคา 45 บาท ซื้อที่ Shopee ให้ 7/10 คะแนน
GARNIER Light Complete White Speed brightening scrub ตัวนี้เป็นโฟมสครับที่มีเม็ดบีดส์ขนาดเล็ก
ใช้ได้ทุกวัน ไม่บาดผิวไม่ระคายเคือง ช่วยทำความสะอาดผิว ขจัดความหมองคล้ำ เนื้อโฟมเนียนนุ่ม
แต่ฟองค่อนข้างเยอะ ใช้แล้วหน้าดูสะอาดใสขึ้นดี แต่หลังล้างอ๊อฟยังรู้สึกว่ามันแห้งและตึงที่ผิวไปนิดนึง
ราคา 99 บาท ซื้อที่ 7/11 ให้ 7/10 คะแนน
Neutrogena deep clean blackhead eliminating daily scrub โฟมล้างหน้าสครับที่มีทั้งเม็ดบีดส์เล็ก
และใหญ่ปนกันไป แต่สครับแล้วก็ไม่ได้บาดผิว เป็นโฟมสครับที่ใช้แล้วรู้สึกหน้าสะอาดดี
ล้างออกแล้วก็ยังคงความชุ่มชื่นของผิวไว้อยู่ หน้าไม่แห้งตึง ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ว๊าวอะไร
ราคา  169 บาท ซื้อที่ Lotus ให้ 7/10 คะแนน 
SCENTIO COCONUT & Co-Q10 Facial Scrub จาก Beauty Buffet มาส์กหน้าน้ำมันมะพร้าวบำรุงผิว
เป็นมาส์กหน้าเนื้อครีมเข้มข้นที่มีเม็ดสครับละเอียดมาก มองแทบไม่เห็นเลย สครับแล้วไม่บาดผิว
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นวดๆ วนๆ แล้วล้างออกผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื่น ผิวไม่แห้งตึงดี
ราคา 200 บาท ร้าน Beauty Buffet ทุกสาขา ให้ 7/10 คะแนน
มาต่อที่สครับผิวกายตัวดัง Sugar Gluta Tamarind AHA Brightening Scrub หรือสครับมะขาม
จาก EVEANDBOY เป็นสครับผิวกายที่เนื้อค่อนข้างเหลวแต่มีความดีงามมว๊าก เม็ดสครับเป็นน้ำตาล
ละเอียดไม่บาดผิวเลย ขัดตัวเพลินเชียวแหละ พอใช้น้ำล้างจะมีฟองเหมือนใช้ครีมอาบน้ำไปอีก
หลังล้างออก ผิวเนียนนุ่มเว่อร์ ถ้าช่วงไหนที่ไปโดนแดดบ่อยๆ กลับมาขัดตัวนี้ผิวสว่างใสขึ้นเลย
ราคา 99 บาท หาซื้อได้ที่ EVEANDBOY ตัวนี้ให้ 10/10
ตัวต่อมาเป็นสครับตัวที่ภูมิใจนำเสนอมาก คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จัก นั่นคือ ครีมมะขามพะเยา ตราแม่แสงดี นั่นเอง
โด่งดังมายาวนาน ทุกวันนี้อ๊อฟก็ยังใช้อยู่ เห็นกระปุกใหญ่ๆ แบบนี้ก็ใกล้จะหมดแล้ว มันดีมากจริงๆ แต่ก่อนต้อง
มานั่งเอามะขามเปียกมาผสมกับขมิ้น ไพร นมสด แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องวุ่นวาย กระปุกนี้จบ รวมเอามะขาม ขมิ้น  ว่าน
หางจระเข้ น้ำผึ้ง นมสด ผสมมาให้แล้วเสร็จสรรพขัดผิวได้เลย ตัวนี้ไม่มีเม็ดสครับ เป็นเนื้อมะขามเนียนๆ
ขัดๆ พอกๆ ตอนตัวเปียกหรือผสมน้ำเล็กน้อย ไม่แสบผิวยิบๆ ล้างออกแล้วผิวเนียนนุ่มจริงๆ
ยิ่งขัดเป็นประจำ ผิวสว่างขึ้นด้วย หักคะแนนตรงขัดแล้วพื้นจะเลอะเทอะไปหน่อย
ราคา 300 บาท หาซื้อได้ในอินเตอร์เนต search ครีมมะขามพะเยา ได้เลย ให้ 9/10 คะแนน
Soap & Glory Breakfast Scrub ซื้อมาตอนที่ Boots เค้ามีโปร 1 แถม 1 เป็นสครับที่มีส่วนผสมของ
oat, shea butter & sugar body smoother, Golden Sugar, Natural Organic Cupuacu bio Scrubs
,Banana, Almond and Honey extracts  เป็นสครับที่มีกลิ่นหวานหอมของกาแฟมาก ตัวนี้เด่นในเรื่อง
ให้ความชุ่มชื้นกับผิว เม็ดสครับเป็นน้ำตาลและมีอัลมอนด์บด เม็ดสครับใหญ่กว่า Flake away แต่เล็กกว่า Sugar
crush ไม่บาดผิว เม็ดสครับกำลังดี ขัดแล้วผิวเนียนนุ่มเว่อร์ เรื่องความขาวใสเฉยๆ
ให้คะแนนเรื่องความหอมและความเนียนนุ่มของผิวมากกว่า
ราคา 370 บาท จำไม่แม่นเพราะซื้อนานมาก หาซื้อได้ที่ Boots
แนะนำซื้อตอนโปร 1 แถม 1 เท่านั้นถึงจะคุ้มให้ 8/10 คะแนน

YOKO SPA MILK SALT เกลือสปาขัดผิวที่หาซื้อง่ายมาก เดินเข้า 7/11 มีแน่นอน เป็นเกลือสปาขัดผิวที่ถูกและดี
อีกหนึ่งยี่ห้อ ใครที่เริ่มมองหาสครับขัดผิว เชื่อว่าต้องเคยลองยี่ห้อนี้แน่นอน แต่ แต่ แต่ ตัวเกลือสปาขัดผิว
ค่อนข้างหยาบ ดังนั้นควรขัดผิวด้วยความเบามือ ไม่งั้นแข้งขาอาจจะแหกหรือถลอกได้  ความดีงามอีกอย่าง
คือ กลิ่นโคตรหอม หอมแบบนมเลย หอมอร่อยน่ากิน ตัวนี้ขัดแล้วผิวเนียน ผิวสะอาดดี รู้สึกว่าขี้ไคลออกกระจุย
กระจาย พอล้างออกผิวเนียนนุ่มไปอีก ราคาแบบขัดทิ้งขว้างได้โดยไม่ต้องเสียดาย
ราคา 32 บาท ซื้อได้ที่ 7/11 ทุกสาขา ให้ 8/10 คะแนน

ผงขัดผิวธันยพรสมุนไพร ตัวนี้เป็นผงขัดผิวที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทยต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นขมิ้น ไพร เกลือ
ว่านนางคำหรือพิมเสน เป็นผงสมุนไพรที่ต้องเอามาผสมน้ำหรือนมสดแล้วจึงค่อยมาขัดผิว อารมณ์เหมือนคนสมัย
ก่อนขัดผิวด้วยขมิ้น สีก็จะเหลืองๆ แต่ก็ไม่ได้ล้างออกแล้วเหลืองเหมือนคนเป็นดีซ่านนะ เหลืองติดมือติดซอกเล็บ
บ้างเล็กน้อย เอาเป็นว่าเหมาะกับคนที่ชอบนำส่วนผสมอื่นมามิกซ์ใส่ ไม่ว่าจะเป็นเบคกิ้งโซดา หรือเกลือขัดผิว
 ล้างออกแล้วผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใสดี
ราคา 65 บาท ซื้อได้ใน Shopee ให้ 6/10 คะแนน
Beauty Cuisine Milk Salt Scrub จาก Beauty Market เป็นสครับเกลือสูตรพิเศษที่เป็นเนื้อครีม
สครับเม็ดไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่ละเอียดเหมือนแบรนด์อื่นๆ ต้องขัดเบาๆ ถึงจะไม่บาดผิว
สครับแล้วหอมกลิ่นนมเว่อร์ ล้างออกแล้วผิวเนียนเด้งดี
ราคา 149 บาท หาซื้อได้ที่ Beauty Market Shop ให้ 7/10 คะแนน
OAB’S SOAP สบู่กาแฟของคุณแม่โอป รักอยิมกะอยัมก็ต้องอุดหนุนคุณแม่โอปด้วย ซื้อเพราะความรักล้วนๆ ฮ่าๆ
เป็นสบู่สครับกาแฟที่มีแพคเกจจิ้งสวยเก๋มาก มีส่วนผสมจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยส่วนผสมดีๆ เต็มไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน B และ E เข้มข้น Shea Butter และสารต้านอนุมูลอิสระ มาพร้อมตาข่ายตีฟอง
มีกลิ่นหอมกาแฟมว๊าก ในเนื้อสบู่จะมีกากกาแฟเป็นเกล็ดละเอียดๆ ขัดแล้วไม่บาดผิวแน่นอน จะใส่ตาข่ายตี
ฟองหรือเอาออกมาขัดผิวเปล่าๆ ก็ได้ หลังลองใช้ครั้งแรก เอาจริงๆ นะใช้ขัดพวกขี้ไคลและขจัดผิวหยาบกร้าน
ได้ดีมาก ผิวกระจ่างใสขึ้นในครั้งแรกจริงๆ ยิ่งตามพวกข้อศอก ตาตุ่ม หัวเข่าจะเห็นชัดมากว่ากระจ่างใสขึ้น
ราคา 190 บาท ซื้อใน Shopee ตอนลดราคา ให้ 10/10 คะแนน

YOKO COFFEE SALT SCRUB SHOWER BATH เกลือสปาขัดผิวสูตรกาแฟ ซื้อมาตอนเวป Konvy มีโปร 1 แถม 1
เป็นเกลือสปาขัดผิวค่อนข้างหยาบ อย่าขัดแรงไม่งั้นจะแสบผิวได้ ขนาดแค่ขัดๆ ถูๆ แปปเดียวผิวยังแดงเลย
เหมาะเอาไว้ขัดตรงต้นขาที่มีเซลลูไลท์ ต้องอาศัยความสม่ำเสมอขัดบ่อยๆ น่าจะช่วยให้เซลลูไลท์จางลงได้
ราคา 99 บาท ซื้อ 1 แถม 1 ที่เวป Konvy ให้ 6/10 คะแนน
SCENTIO Sofe & Smooth Riceberry Cream จาก Beauty Buffet เป็นสครับผิวที่มีเนื้อสครับเนียน
ละเอียดมาก เม็ดสครับมีทั้งเล็กใหญ่ผสมกัน แต่ขัดแล้วไม่รู้สึกระคายเคืองหรือบาดผิวเลย
ยิ่งกลิ่นนะหอมสุดๆ หอมกลิ่นน้ำนมข้าว กลิ่นข้าวไรซ์เบอรี่อะไรทำนองนี้  สครับเสร็จแล้วล้างออก
ผิวเนียนนุ่ม กลิ่นหอมติดผิว เหมาะกับใช้สครับและบำรุงผิวไปในตัว
ราคา 147 บาท ซื้อจากเวป Konvy ให้ 8/10 คะแนน

Beauty Buffet Scentio Daily Delicious Tomato Jam Scrub & Wash แยมสครับผิวที่มีเม็ดสครับของเบอรี่
ตัวนี้เป็นสครับที่ใช้ทั้งสครับและเป็น Body wash ไปในตัว รู้สึกกลิ่นมันออกเป็นครีมอาบน้ำมากกว่า
ไปทางสครับผิว เนื้อสครับละเอียด พอล้างน้ำออกจะมีฟองเล็กน้อย ล้างแล้วรู้สึกผิวสะอาดดี
แต่ไม่ประทับใจซักเท่าไหร่ชอบสูตรข้างบนมากกว่า
ราคา 147 บาท ซื้อจากเวป Konvy ให้ 5/10 คะแนน

Lalil Tightening & Reactivating Coffee Body Scrub สครับขัดผิวจากเมล็ดกาแฟและเกลือธรรมชาติ
เป็นสครับที่เม็ดสครับเยอะสะใจมาก เนื้อสครับเข้มข้น เม็ดสครับมีทั้งเล็กและใหญ่ สำหรับขัดตัว
อ๊อฟว่าไม่บาดผิวและไม่ระคายเคืองผิวนะ ขัดตัวกำลังดี กลิ่นกาแฟหอมแรงมาก สครับแล้วขัดพวกเซลล์ผิว
เก่าๆ ได้ดี ชอบตรงปราศจากซิลิโคน พาราเบน และ SLS/SLES ล้างออกแล้วผิวเนียนสะอาดดี
ราคา 490 บาท ซื้อจากเวป Konvy ให้ 8/10 คะแนน

Watsons Cream Body Scrub Almond & Shea Butter Scented ครีมสครับผิวกายที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์
ออยล์,เชียร์ บัตเตอร์และเม็ดสครับจากธรรมชาติ เม็ดสครับขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่และไม่ได้มีเยอะมาก
ขัดแล้วไม่บาดผิว เนื้อครีมสครับหอมและนุ่มมาก ขัดแล้วรู้สึกผิวเนียนนุ่มดี ล้างออกก็ไม่แห้งตึง
ให้ความรู้สึกเหมือนอาบน้ำเสร็จแล้วทาโลชั่นเคลือบผิวอยู่ ส่วนเรื่องความขาวใสยังไม่ค่อยเห็นผล
ราคา 99 บาท ซื้อได้ที่ watsons ให้ 7/10 คะแนน

สุดท้ายท้ายสุด Mivagirl Nanako’s Farm Volcanic Mud Salt Scrub เกลือขัดผิวสูตรถ่านภูเขาไฟญี่ปุ่น
เป็นเกลือขัดผิวที่มีความหยาบเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีสีดำของถ่านชาร์โคล อารมณ์คล้ายๆ กับเกลือสปาขัดผิว
ของยี่ห้อ YOKO เลย แต่ตัวนี้มีสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ โคลนภูเขาไฟ ถ่านชาร์โคล กลูต้าไธโอน อาร์บูติน
วิตามินซี น้ำมันดอกซึบากิ และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ขัดแล้วผิวเรียบเนียนชุ่มชื่นดี
ราคา 27 บาท ซื้อที่เวป Konvys ให้ 7/10 คะแนน

เป็นยังไงคะ สครับผิวหน้าและผิวกายที่อ๊อฟรวบรวมเอามาฝาก หากถูกใจก็กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจ
กันด้วยนะคะ รีวิวหน้าจะเป็นอะไร รับรองว่าอัดแน่นจัดเต็มตามสไตล์ iloveaday แน่นอน
สวัสดีค่ะ ใกล้วันแม่เข้ามาแล้ว วันนี้อ๊อฟเลยจะมารีวิวสกินแคร์ของคุณแม่ที่ใช้สักหน่อย
เรียกว่าเปิดโต๊ะเครื่องแป้งของคุณแม่ก็ว่าได้ อ๊อฟเลยกวาดลงมาถ่ายรูปทำรีวิวให้ได้ดูกัน
เนื่องจากคุณแม่ก็อายุ 60 ปี แล้วเวลาไปไหนมาไหนส่วนมากคนจะทักว่าคุณแม่เป็นพี่สาวอ๊อฟประจำ
อาจเป็นเพราะว่าคุณแม่ยังดูเด็กกว่าอายุจริง ถ้าอ๊อฟอายุ 60 อ๊อฟก็อยากดูสาวและสวยแบบนี้เหมือนกัน
เรื่องของเรื่องก็อยากรู้ว่าแม่ของตัวเองใช้อะไรด้วยบ้างแหละ 555
จะรีวิวสกินแคร์ทั้งทีมันก็ต้องหน้าสดแบบนี้แหละ แม่ตกใจตอนอ๊อฟชวนมาถ่ายรูป แม่บอกว่าเอางี้เลยหรอ
ไม่ให้แม่แต่งหน้าแต่งตัวหวีเผ้าหวีผมเลย มันต้องแบบนี้แหละเนอะไม่ต้องปรุงแต่งอะไร
ส่วนอ๊อฟก็เพิ่งตื่นลงมาก็สภาพชุดนอนอย่างที่เห็น แน่นอนว่าฟันก็ยังไม่แปรง 555
คุณแม่ในวัย 60 ปี ส่วนอ๊อฟในวัย 32 ปี
กระทู้รีวิวสกินแคร์ของอ๊อฟดูได้ในลิงก์ด้านล่างเลยค่ะ
http://www.iloveaday.com/review-skincare-for30ages/

และทั้งหมดทั้งมวลนี่ก็เป็นสกินแคร์ของคุณแม่ที่เลือกซื้อมาใช้เอง อ๊อฟไม่ได้ไปแนะนำหรือซื้ออะไรให้เลย
ข้อมูลและผลิตภัณฑ์อ๊อฟหามาให้จากในเนต ส่วนความรู้สึกของคุณแม่ที่เลือกใช้
อ๊อฟจะเรียบเรียงในภาษอ๊อฟเนอะ

l’oreal uv perfect aqua essence ครีมกันแดดเนื้อเอสเซนส์ แม่บอกว่าทาแล้วไม่หนักหน้า เกลี่ยง่ายดี
ไม่ขาวไม่วอก ทาแล้วทาแป้งแคร์ทับหน้าก็ผ่องแล้ว เรื่องกันแดดเฉยๆ เพราะไม่ค่อยได้ออกไปตากแดด

แต่ก่อนแม่ชอบใช้ตัว Shiseido whip foam หลอดฟ้าๆ แม่บอกว่าเมื่อก่อนฮิตมาก น้องพนักงานออฟฟิศ
ชอบเอามาแนะนำมาขาย แต่เดี๋ยวนี้หาซื้อยากเลยใช้ตัว Senka Perfect Whip Collagen in แทน
ถามแม่ทำไมไม่เลือกหลอดสีฟ้า แม่บอกว่าสีชมพูมีคอลลาเจนหน้าจะได้เด้งๆ

Sulwhasoo First care Activating Serum Ex ตัวนี้แม่บอกลองใช้ที่คอก่อนเพราะเคยใช้อะไรที่เป็นโสมแล้วแพ้
แต่พอใช้ไปจริงๆ แม่บอกว่าไม่มีอาการแพ้เลยเอามาทาหน้า แม่บอกไม่รู้หรอกว่าผลลัพธ์มันเป็นยังไง
แต่ใช้แล้วหน้านุ่มขึ้น เนียนขึ้น ผิวดูไม่แห้งเหมือนก่อน

SK-II Facial Treatment Essence น้ำตบชื่อดัง นี่ก็งงแม่ไปรู้จักกับเค้าด้วยหรอ
แม่บอกเธอไม่รู้จักหรอ เจี๊ยบ โสภิตนภา ที่เค้าโฆษณาอะ เห็นเค้าใช้แล้วสวยเลยอยากสวยบ้าง
แม่บอกไม่ต้องตบเยอะมันแพง ตบนิดๆ หน่อยๆ พอ

Biortherm Pure-Fect Skin ตัวนี้แม่บอกกลิ่นแอลกอฮอล์แรงมากไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่
พอหยิบมาเช็ดแล้วรู้สึกหน้าแห้ง ตึงที่ผิวแล้วก็แสบตาเลยไม่หยิบมาใช้ต่อ

Olay Eyes Ultimate Eye cream แม่บอกว่าใต้ตาสำคัญมากต้องให้ความชุ่มชื่นเป็นพิเศษ
จะอายครีมตัวไหนก็ได้ขอให้ทา แม่บอกว่าทาตั้งแต่สมัยสาวๆ จนถึงตอนนี้ตาไม่เคยแห้งคล้ำหรือเป็นร่องลึกเลย

Capture Totale Haute Nutrition Concentrated Nurturing Rich Lotion # 2 Rich
โลชั่นลดเลือนริ้วรอยสูตรสำหรับผิวแห้ง-แห้งมาก แม่บอกว่าตัวนี้ดีมากให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นและกระจ่างใสดี
WHITE LUCENT MicroTargeting Spot Corrector (Serum) เป็นเซรั่มที่ช่วยลดเลือนพวกจุดด่างดำ
แม่บอกหน้ามีฝ้ามีกระเล็กน้อย ทาตัวนี้ไปก็ไม่หายนะ แต่ก็จางลง ที่สำคัญต้องขยันทาครีมกันแดดบ่อยๆ

Shiseido WHITE LUCENT Brightening Balancing Softener Enriched W โลชั่นที่ช่วยปรับสมดุลผิวให้ผิว
เรียบเนียนกระจ่างใส แม่บอกชิเซโด้เค้าเก่งเรื่องผิวขาวๆ เนียนๆ อะ เลยซื้อมาใช้

Jergens® Age Defying Multi-Vitamin Moisturiser ตัวนี้แม่บอกหมอที่สินแพทย์แนะนำมา วั
นก่อนแม่ไปหาหมอเพราะมีผื่นปื้นหนา หมอบอกว่าเป็นผิวหนังอักเสบเรื้อรังเกิดจากที่ผิวแห้ง
และเจอพวกฝุ่นเลยแพ้ พอยิ่งไปเกาก็เป็นแผล หมอเลยแนะนำให้อย่าเกาและทาโลชั่นบำรุงผิวเยอะๆ
ทาบ่อยๆ ให้ผิวชุ่มชื่นพอทาโลชั่นตัวนี้แม่บอกจากผิวแห้งๆ ก็ดีขึ้น ชุ่มชื่นขึ้น

สุดท้ายสเปรย์ปิดกลางศีรษะของ Loreal แม่บอกบางทีก็ย้อมผมหงอกไม่ทันเลยต้องหาสเปรย์
มาปิดผมชั่วคราว แม่บอกปิดได้โอเคเลย สะดวกดี ดีกว่าย้อมผมบ่อยๆ ด้วย
เป็นยังไงบ้างคะสกินแคร์ของคุณแม่อ๊อฟหวังว่าจะเป็นประโยชน์และชอบกัน
วันแม่ปีนี้ลองหาซื้อสกินแคร์ดีๆ ให้คุณแม่ไว้เป็นของขวัญก็ได้นะคะ
ส่วนอ๊อฟแม่บอกว่าเอาเงินมาเดี๋ยวชั้นไปซื้อเอง 555
สวัสดีค่ะ อ๊อฟกลับมาอีกแล้วกับกระทู้รีวิวที่รวบรวมเอาของดี ของเด็ด ของที่เคยใช้มารีวิว มีข้อดี ข้อเสียบ้าง
ใช้แล้วชอบ ใช้แล้วไม่ชอบบ้างปะปนกันไป วันนี้อ๊อฟมาพร้อมกับ Cleansing Water 20 ยี่ห้อที่ใช้อยู่
มารีวิวให้สาวๆ ได้ดูกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางชนิดน้ำ (Cleansing water) หรือเจ้าน้ำใสๆ
ที่เราเห็นเนี่ย เค้าเป็นที่เช็ดคราบเครื่องสำอางต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นคราบรองพื้น ลิปสติก และสิ่งสกปรกต่างๆ
อย่างเช่น ฝุ่นละอองที่เกาะอยู่บนผิวเรา ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีคำเคลม สารสกัด วิตามินหรือส่วนผสมแตกต่างกัน
ไป ทำออกมาหลากหลายสูตรให้เหมาะกับสภาพผิวต่างๆ ใช้ควบคู่กับสำลี ถ้าถามว่า Cleansing Water ขวดเดียว
เช็ดทำความสะอาดจบมั้ย สำหรับอ๊อฟคิดว่าถ้าคนที่แต่งหน้าหนัก หรือใช้พวกคสอ.ที่เป็น waterproof
เขียนอินเนอร์ไลเนอร์ข้างใน ปัดมาสคาร่ากันน้ำ อาจทำความสะอาดได้เต็มที่เพียงแค่ 70 – 80%
อาจจะต้องเช็ดหลายรอบขึ้นอยู่กับคสอ.แต่ละยี่ห้อ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเป็นพวกตาหรือปาก
อ๊อฟแนะนำว่าควรใช้ Eye & Lip Make up Remover ทำความสะอาดโดยเฉพาะดีกว่า
เพราะว่าเครื่องสำอางกันน้ำจะละลายได้ดีกับน้ำมัน หลังจากนั้นจึงค่อยใช้คลีนซี่ง วอเตอร์เช็ดซ้ำอีกที
เพื่อดึงคราบเมคอัพหรือความมันที่ยังตกค้างอยู่

Senka Perfect Water Cleansing เป็นคลีนซิ่งอีกตัวที่เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เช็ดออกได้ง่ายโดยไม่ทิ้งความเหนอะหนะและแห้งตึงไว้บนผิว ที่สำคัญตัวนี้เช็ดแล้วไม่แสบตาด้วย
แต่ตัวนี้มีกลิ่นหอมค่อนข้างชัดเจน ถ้าใครแพ้หรือไม่ชอบน้ำหอมตัวนี้ไม่แนะนำค่ะ
ให้ 7.5/10 คะแนน (300 ml. ราคา 380 บาท) อ๊อฟซื้อที่ Watsons

Fresh drop pure Micellar Make-up Removing Water คลีนซิ่งตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
น้ำหอม แอลกอฮอล์และพาราเบน มีส่วนผสมของอนุพันธ์ของวิตามินซีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
และช่วยให้ผิวกระจ่างใสอีกด้วย ส่วนตัวชอบปริมาณของขวดที่จัมโบ้มว๊าก ใช้ได้นานเลย
แถมยังทำความสะอาดได้ดีสุดๆ เช็ดแล้วสบายผิว ไม่แสบตา พวกคสอ.กันน้ำหรือลิปแมท
ก็เช็ดออกได้ง่าย ยกให้เป็นคลีนซิ่งลูกรักที่ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้งเลย
ให้ 10/10 คะแนน ( 510 ml. ราคา 290 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ Eve & Boy

Freyja Peau Cleansing (เฟรยา พิวย์) คลีนซิ่งวอเตอร์น้ำแร่ประจุลบจากประเทศญี่ปุ่น ตัวนี้สามารถใช้
สำหรับการบำรุงเตรียมความพร้อมของผิวหน้าก่อนการบำรุง หรือเช็ดด้วยสำลีเพื่อเช็ดเครื่องสำอางหรือขจัด
สิ่งอุดตันบนผิว เรื่องเช็ดทำความสะอาดถือว่าทำหน้าที่ได้ดีเหมือนกัน ลองหยิบเอาอายไลเนอร์กับลิปที่ทนมากๆ
มาเทส ยังเช็ดออกได้ง่ายๆ เลย ประมาณสำลีแผ่นที่ 2 ก็เกลี้ยงโดยที่ไม่ต้องออกแรงเช็ดมากมาย
ตัวนี้มีน้ำหอมนะจ๊ะ แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ในระดับที่โอเคยังรับได้อยู่
ให้ 8/10 คะแนน ( 300 ml. ราคา 490 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ Eve & Boy

Green Pharmacy Micellar Solution 3 in 1 oat คลีนซิ่งตัวนี้มาจากประเทศโปแลนด์
เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวมันหรือมีปัญหาสิว ผิวบอบบางแพ้ง่ายเพราะสกัดมาจากธรรมชาติ
มีส่วนผสมที่ลดการอักเสบของผิวและยังทำให้สิวหายเร็วด้วย ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน  น้ำหอม
ไม่มีส่วนผสมของสบู่ สี สังเคราะห์หรือส่วนผสมของน้ำมัน เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดี
ไม่แสบผิว ไม่แสบตา หน้าไม่แห้งตึง เสียดายราคาแรงไปนิดนึงถ้าซื้อตอนจัดโปรโมชั่นจะคุ้มกว่า
ให้ 8/10 คะแนน ( 500 ml. ราคา 429 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ watsons
Dove Wipe-off Cleansing Micellar Water กรี๊ดกับคลีนซิ่งตัวนี้ของโดฟเพราะใช้ดีมาก
เช็ดล้างเครื่องสำอางได้หมดจดเพียงแค่แปะทิ้งไว้ไม่กี่วินาทีแล้วรูดออก ที่สำคัญไม่ระคายเคืองผิว
เช็ดพวกอายไลเนอร์และมาสคาร่าไม่แสบตาด้วยจ้า เช็ดแล้วรู้สึกผิวชุ่มชื้นแต่ไม่เหนียวเหนอะ
ชอบฟีลลิ่งที่ให้กว่า Bioderma สีชมพูตัวฮิตนะ เสียดายราคาแอบแรงไปเมื่อเทียบกับปริมาณ
ให้ 9/10 คะแนน ( 235 ml. ราคา 369 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ Konvy
Derclema Cleansing Water (เดอร์คลีมา) เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าและเช็ดเครื่องสำอางสูตรน้ำ
ที่ปราศจากส่วนผสมของสารเคมี น้ำมัน แอลกอฮอล์หรือน้ำหอม มาพร้อมนวัตกรรม Micellar Solution
อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย ตัวนี้ไม่มีน้ำหอมแต่มีกลิ่นแปลกๆ
เช็ดเครื่องสำอางได้ดีเว่อร์ ไม่ระคายเคืองผิว ไม่แสบตา วันไหนแต่งหน้าเบาๆ เช็ดตัวนี้ตัวเดียวไม่ต้องใช้
โฟมล้างหน้าต่อ สิวก็ไม่ขึ้นเอ้อ…เอากะเค้าสิ ใช้แล้วผิวยังชุ่มชื่นไม่แห้งตึง
หักตรงราคาแอบสูงถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น และกลิ่นที่พิลึกอย่างบอกไม่ถูก ฮ่าๆ
ให้ 8/10 คะแนน ( 250ml. ราคา 850 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ Beautrium
Mizumi Smooth Cleansing Water นอกจากครีมกันแดดที่โด่งดังและใช้ดีมาก คลีนซิ่งตัวนี้ก็เช่นกัน
เป็นคลีนซิ่งที่ไม่เหมือนใครเพราะเป็นสูตรลดแรงเสียดสีผิวสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะ ให้สัมผัสที่ “นุ่มลื่น”
 เหมือนไม่ได้ใช้สำลี!!  เป็นสูตร 5-FREE ไม่มีน้ำหอม น้ำมัน แอลกอฮอล์ พาราเบนและสีสังเคราะห์
ที่สำคัญคือไม่มีสบู่และสารก่อฟอง ไม่อยากจะบอกว่าใช้มาไม่ต่ำกว่า 3 ขวด สัมผัสแรกที่เช็ด คือ มันนุ่มและลื่น
กว่าคลีนซิ่งทุกตัวที่เคยเจอ เช็ดแล้วไม่บาดหน้าแถมยังเช็ดเครื่องสำอางที่ติดทนมากๆ ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เช็ดได้สะอาดมาก โดยไม่ต้องถูแรง ๆ ส่วนตาลองเช็ดแบบไม่ใช้ eye remover ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี
ไม่ถึงกับหมดเกลี้ยงในรอบเดียว แต่เช็ดแล้วไม่แสบตา สบายผิวคือปลื้มมาก
ให้ 10/10 คะแนน ( 500 ml. ราคา 490 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ Watsons
1028 Visual Therapy Hydrating Cleansing Toner ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า
ด้วยส่วนผสมสูตรอ่อนโยนที่ปราศจากสารปรุงแต่ง น้ำมัน สบู่ หรือแอลกอฮอล์ เป็นคลีนซิ่งที่อ่อนโยน
ต่อผิวอีกตัวนึงที่ไม่ระคายเคืองผิว สามารถเช็ดเครื่องสำอางได้ค่อนข้างดีและยังใช้เป็นโทนเนอร์
หลังล้างหน้าเสร็จแล้วได้อีกด้วย สำหรับตัวนี้นอกจากอ๊อฟจะชอบตรงที่ไม่รู้สึกแสบผิว แสบตาแล้ว เช็ดแล้วทิ้งไว้
ซักพักลองเอามือจับผิวดู ผิวมันจะมีความชุ่มชื้น นุ่มๆ ไม่แห้งตึง พอดูส่วนผสมอีกที อ๋อ เค้าใส่ hyaluronic acid
เข้าไปเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวนั่นเอง นอกจากตัวนี้จะใช้ดี ตัว Eye & Lip Remover ใช้ดีมว๊าก
ให้ 8.5 /10 คะแนน ( 200 ml. ราคา 299 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ Watsons
Lalil Ultra Gentle Cleansing Water เป็นคลีนซิ่งที่ทำแพคเกจออกมาได้น่ารัก สดใสดี มีสารสกัดจากธรรมชาติ
อย่างสารสกัดจากข้าว น้ำกุหลาบ ซึ่งคลีนซิ่งตัวนี้มีกลิ่นหอมแบบฟลอรัลกลิ่นค่อนข้างให้ความรู้สึกดี ไม่เหม็นฉุน
หอมบาง ๆ เช็ดแล้วสดชื่นดี ให้สัมผัสหลังเช็ดที่ค่อนข้างโอเคไม่แห้ง ไม่มันหรือทิ้งความหนึบให้กับผิว
ส่วนเรื่องการทำความสะอาดถ้าเป็นพวกครีมกันแดด หรือแต่งหน้าเบาๆ ก็ทำได้ค่อนข้างโอเค
เช็ดได้สบายผิวและไม่แสบรอบดวงตา แต่ถ้าถามว่าซื้อซ้ำมั้ยคงไม่นะ
ให้ 7/10 คะแนน ( 310 ml / 380 Baht) อ๊อฟซื้อที่ Konvy
Golden Rose Micellar Cleansing Water ปกติเคยใช้แต่ลิปสติกของแบรนด์นี้ ด้วยความอยากรู้อยากลอง
ก็ไปหามาลอง ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและรอบดวงตา ที่อุดมไปด้วยสารบำรุงที่ช่วยถนอมผิว
พร้อมบำรุงผิวพรรณด้วยสารสกัดจากน้ำมัน japonica camellia และมอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความมีชีวิตชีวา
และคงความชุ่มชื่นภายในผิว ลองเช็ดดูแล้วทำความสะอาดได้โอเค แต่พอเช็ดรอบๆ ดวงตา
ตัวนี้สำหรับอ๊อฟแสบตา ไม่แฮปปี้เท่าไหร่ เลยไม่ค่อยหยิบมาใช้ แต่ลิปเค้าใช้ดีจริง
ให้ 6/10 คะแนน ( 200 ml / 259 Baht) อ๊อฟซื้อที่ Konvy
Ganier Micellar Cleansing Water Pure Active เป็นคลีนซิ่งที่ถูกและดีอีกตัวนึงที่ต้องซื้อซ้ำตลอด
ขวดสีฟ้าเป็นสูตรเพื่อผิวผสมถึงผิวมันโดยเฉพาะ ไม่มีน้ำหอม แต่ว่ามีแอลกอฮอลล์นะจ๊ะ ชอบตรงไม่มีกลิ่น
อารมณ์เหมือนใช้น้ำเปล่าเช็ดหน้า แต่สะอาดกว่ากันเยอะเลย ช่วยจัดการสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน
สาเหตุหลักของสิวได้ดีอีกด้วย เป็นคลีนซิ่งที่เช็ดรองพื้น ลิปสติก ออกมาได้ดีมาก ถ้าเป็นเมคอัพกันน้ำ
หยดคลีนซิ่งลงบนสำลีแล้วโปะทิ้งไว้ไม่ต้องออกแรงถูพวกคราบอายไลเนอร์ก็หลุดออกมาอย่างง่ายดาย
ส่วนตัวอ๊อฟรู้สึกว่าดูดเมคอัพออกมาได้ดีกว่ายี่ห้ออื่นๆ เช็ดเสร็จ ผิวหน้าไม่แห้งตึง ไม่แสบตา
ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ต้องล้างหน้าซ้ำ ราคาน่ารัก ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ซื้อเถอะไม่ผิดหวัง
ให้ 10/10 คะแนน ( 400 ml. ราคา 249 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ Watsons

VIS PLANTIS Herbal Vital Care Micellar Gel with Cornflower Extract and Panthenol  คลีนซิ่งเจล
ไมเซลล่าร์ที่มีส่วนผสมของดอกคอร์ฟลาวเวอร์และแพนทีนอลจากประเทศโปแลนด์ เป็นผลิตภัณฑ์
เช็ดทำความสะอาดใบหน้า สูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม อ่อนโยนต่อผิว สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอาง
ได้ดีพอสมควร โดยที่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ตัวนี้เช็ดแล้วไม่ต้องล้างออก ถึงจะเป็นคลีนซิ่งเจลแต่ก็ไม่ทำให้
เหนอะหนะผิว เช็ดแล้วไม่แสบตา แต่ราคาแรงอยู่เหมือนกัน หมดแล้วคงไม่ซื้อต่อ
ให้ 6.5/10 คะแนน ( 500 ml ราคาขวดละ 1,190 บาท) ทางแบรนด์ส่งมาให้ค่ะ

Pond’s White Beauty Brightening Micellar Water ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า รอบดวงตา
และริมฝีปาก เค้าบอกว่าตัวนี้มีวิตามินบี 3 ที่ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสทุกครั้งหลังใช้ ไม่มีพาราเบน แอลกอฮอลล์
และน้ำหอม เหมาะกับทุกสภาพผิว เอาจริงๆ ตอนแรกที่ซื้อมาคิดว่าคงงั้นๆ แต่ไม่เลย เช็ดพวกเครื่องสำอางต่างๆ
ได้ดี แถมยังไม่แสบตา เช็ดแล้วสบายผิว จับแล้วผิวยังนุ่มไม่แห้งสาก ถามว่าเช็ดแล้วผิวมันไบรท์ขึ้นมั้ย
ก็สว่างขึ้นนะคงเพราะเช็ดเอาเมคอัพออกไป หน้าเลยดูใสขึ้น
ให้ 8.5/10 คะแนน ( 100 ml ราคาขวดละ 89 บาท) อ๊อฟซื้อที่ 7/11

NIVEA  White Oil Control Make up Clear Micellar Water คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางสูตรน้ำ
ไม่มีแอลกอฮอลล์ เป็นสูตรใหม่ที่ทางแบรนด์เคลมว่าเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำได้ 
สามารถดูดจับเมคอัพที่ติดทน เช่น อายไลเนอร์ หรือเครื่องสำอางกันน้ำ ถึงจะปรับสูตรมาใหม่เเล้ว 
เเต่อ๊อฟก็ยังรู้สึกเฉยๆ คิดว่าเหมาะกับคนที่ไม่ได้เเต่งหน้าจัดมาก แต่งใสๆ เบาๆ ถ้าแต่งแบบจัดเต็ม
อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ เช็ดแล้วบางครั้งมีแสบผิว แสบตาเล็กน้อย
ให้ 7/10 คะแนน ( 125 ml ราคาขวดละ 99 บาท) อ๊อฟซื้อที่ 7/11
Bifesta Cleansing Water Sebum สำหรับผิวผสม – ผิวมัน เป็นคลีนซิ่งยี่ห้อแรกๆ ที่ซื้อมาเช็ดเครื่องสำอาง
ตัวนี้ปราศจากแอลกอฮอล์น้ำหอม สี น้ำมัน และสารกันเสียชนิดพาราเบน ช่วยขจัดความมันและสิ่งสกปรกที่อุดตัน
ในรูขุมขน พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยสาร Hyaluronate และกระชับรูขุมขนด้วยสารสกัดจากชาเขียว
แน่นอนว่าทำหน้าที่เช็ดคสอ. ได้สะอาดดีเลยแหละ ไม่ระคายเคือง สะอาดสบายผิว ทิ้งความหนึบไว้ที่ผิวเล็กน้อย
เช็ดรอบดวงตาไม่แสบ ส่วนตัวอ๊อฟชอบซื้อแบบรีฟีลมาเติมเพราะประหยัดกว่า
ให้ 8.5/10 คะแนน ( 90 ml ราคาขวดละ 99 บาท) อ๊อฟซื้อที่ 7/11

Dior Hydra Life Balancing Hydration 2 in 1 Sorbet Water เรียกว่าคลีนซิ่งก็คงจะไม่ใช่ซะทีเดียว
สำหรับตัวนี้ออกแนวโทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดและบำรุงผิวมากกว่า ซึ่งเหมาะกับคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง
ผิวแห้งหยาบกร้าน ไม่มีพาราเบนหรือซัลเฟต ซึ่งจะบอกว่ากลิ่นหอมและให้ความชุ่มชื่นได้ดีมาก
นอกจากตอนเช้าจะใช้ปรับสภาพและสมดุลผิวแล้ว ตอนเย็นยังใช้เช็ดทำความสะอาดผิวได้ด้วย
ส่วนตัวคิดว่าทำหน้าที่ได้ดีในเรื่องความชุ่มชื่นมากกว่าการทำความสะอาดผิว
เหมาะกับเป็นสกินแคร์ที่เติมน้ำในผิวมากกว่า
ให้ 8/10 คะแนน ( 175 ml ) ทางแบรนด์ให้มาค่ะ
L’Oreal 3-in-1 Micellar Water ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นคลีนซิ่งที่ 3 in 1 ในขวดเดียวเป็นทั้งคลีนซิ่ง
รีมูฟเวอร์และบำรุงผิว เป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิวไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์
มอบความชุ่มชื่นแก่ผิวโดยไม่ทิ้งความแห้งตึง ตัวนี้เหมือนเป็นฝาแฝดกับการ์นิเย่ ความรู้สึกหลังใช้คือ
ให้ผิวชุ่มชื่น และเหนอะหนะหนึบผิวนิดหน่อย คนผิวมันน่าจะไม่ชอบ แต่พอล้างด้วยน้ำเปล่าแล้วไม่แห้งตึง
ไม่แสบผิวรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนต่อผิว เช็ดแล้วไม่ฝืด ไม่สากหน้า ถ้ามีโปรก็จะซื้อตุนอีก
ให้ 8.5/10 คะแนน ( 400 ml ราคาขวดละ 299 บาท) อ๊อฟซื้อที่ Tesco Lotus
beauty cottage aloe vera cleansing water เป็นคลีนซิ่งอีกตัวที่คุณภาพดีเกินคาด
เคยเป็นหนึ่งในสกินแคร์หรือขั้นตอนดูแลผิวของอ๊อฟสำหรับคลีนซิ่ง ซึ่งตัวนี้ไม่มีสารกันเสีย ไม่ทดสอบ
กับสัตว์ ไม่มีส่วมผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เช็ดเมคอัพและทำความสำอางหลุดได้ค่อนข้างดี
แต่ต้องใช้ชุ่มๆ นิดนึงนะโดยรวมเป็นคลีนซิ่งที่เช็ดแล้วสบายผิวไม่เหนอะหนะผิว
แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คาดว่าน่าจะเป็นกลิ่นของส่วนผสม
ให้ 8/10 คะแนน ( 300 ml ราคาขวดละ 207 บาท) อ๊อฟซื้อที่ Top Supermarket
Collection Makeup Remover Cleansing Water เมคอัพรีมูฟเวอร์เคล็นซิ่งวอเตอร์ สูตรน้ำที่ทำความสะอาด
เครื่องสำอางบนใบหน้า ริมฝีปากและผิวรอบดวงตา ได้อย่างหมดจด โดยไม่จำเป็นต้องล้างน้ำซ้ำ
อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์เหมาะทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบาง ซื้อมาเพราะราคาเย้ายวนใจ
ซื้อ1 แถม 1 แต่ใช้แล้วถ้าเทียบก็เปลืองสำลีกว่าคลีนซิ่งตัวอื่นเพราะต้องใช้ในปริมาณที่เยอะกว่า
ถึงจะเช็ดออกหมด แต่ใช้แล้วไม่แพ้ไม่ระคายเคือง ไม่แสบผิว แต่มีแสบตาบ้างเล็กน้อย
เอาเป็นว่าเหมาะกับคนงบน้อย ถ้าเทียบกับราคาก็คุ้มอยู่
ให้ 8.5/10 คะแนน ( 250 ml แพคคู่ 299 บาท) อ๊อฟซื้อที่ Konvy
NU Formula Mineral Cleansing Water ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าสูตรน้ำแร่บริสุทธิ์
ผสมผสานสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ไม่มีน้ำหอม ส่วนประกอบของน้ำมัน พาราเบนและแอลกอฮอลล์
เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย เห็นกระแสรีวิวดีมาก เลยไปซื้อมาใช้บ้าง ปรากฎว่าดีจริงแฮะ
เช็ดเครื่องสำอางออกมาได้ดีมว๊าก แถมยังไม่แสบตาและระคายเคืองผิวอีก หลังเช็ดหน้าก็ไม่แห้งตึง
รู้สึกผิวสะอาดสดชื่นดี คือถ้าใครใช้ตัวไหนแล้วเช็ดไม่สะอาดหรือว่าแพ้ ลองมาใช้ตัวนี้ดู
ให้ 9.5/10 คะแนน ( 510 ml. ราคา 475 บาท ) อ๊อฟซื้อที่ konvy

 

สวัสดีค่ะ หลังจากที่กระทู้มาส์ก 40 ชิ้นที่อ๊อฟรีวิวไปได้รับฟีดแบคดีมาก พอหันไปดูลิปบาล์มบนโต๊ะเครื่องแป้ง
ในลิ้นชักหรือตามห้องนอนก็ต้องตกใจว่าทำไมตัวเองมีลิปบาล์มบำรุงปากเยอะขนาดนี้ ซื้อมาเรื่อยๆ
อันไหนน่าลองก็ซื้อมาลอง จากคนที่เคยปากแห้ง ปากลอก แกะจนเลือดซิบ ตอนนี้ปากไม่แห้งหรือแตกแล้ว
เพราะติดลิปบาล์มหรือการบำรุงริมฝีปากมาก ต้องทาทุกวัน ต้องโบกทุกคืน
วันนี้อ๊อฟเลยจะมารีวิวลิปบาล์มในกรุของตัวเอง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับสาวๆ ที่กำลังมองหาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก
เหมือนเคยค่ะ อ๊อฟจะไม่ได้เรียงว่าตัวไหนดีที่สุด ความรู้สึกหลังใช้มาจากความรู้สึกส่วนตัวของอ๊อฟล้วนๆ
มีทั้งถูกและแพง มีทั้งข้อดีและข้อเสียบ้างปะปนกันไป จะมียี่ห้อไหนบ้างไปดูกันเล๊ยยย

NIVEA Lip Butter Blueberry Blush เป็นลิปบัตเตอร์ที่หอมน่ากินมว๊าก กลิ่นออกแนวลูกอมซูกัสรสบลูเบอรี่
คือหวานหอมมากอะ เรื่องความชุ่มชื้นโอเคระดับนึงแต่ไม่ได้ให้ความชุ่มชื่นทั้งวันนะ ประมาณ 3-4 ชม.
ก็ต้องหยิบมาทาใหม่ ตัวนี้อ๊อฟชอบหยิบมาทาระหว่างวัน นอกจากตลับน่ารักพกพาง่ายก็กลิ่นนี่แหละที่ชอบมาก
ราคา 159 บาท ให้ 7/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อที่ 7/11)

สีผึ้งแม่เลียบ ถูกและดียังมีในโลก ถ้าปากแห้งปากเยินจากไหนมาต้องมาจบที่ตัวนี้ หลายๆ คนอาจจะไม่ชอบกลิ่น
เพราะกลิ่นของมันจะออกแนวน้ำอบ น้ำปรุงอะไรประมาณนี้ ทากลางคืนเวลาได้กลิ่นอาจจะหลอนได้
แต่เรื่องบำรุงต้องยกให้นะ เนื้อสีผึ้งหนึบมาก โบกไว้ก่อนนอน ตื่นเช้ามาใช้แปรงสีฟันขัดๆ ถูๆ ปากเนียนทันที
ราคา 25 บาท ให้ 9/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจากร้านขายยากรุงเทพ)

ลิปมันเภสัช อีกตัวที่ถูกและดีเชื่อว่าอย่างน้อยทุกคนต้องเคยใช้ เป็นลิปมันที่บำรุงและความชุ่มชื่นได้ดีมาก
 เรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋ว เนื้อลิปเป็นสีชมพู ทาออกมาจะออกสีชมพูระเรื่อๆ ควรมีพกติดไว้เป็นยาสามัญประจำบ้าน
ราคา 15 บาท ให้ 9/10 คะแนน (ซื้อได้ที่ 7 หรือร้านขายยา)

Skin plants Shea Butter Soft เป็นลิปบัตเตอร์เข้มข้น 100% มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่เรื่องความชุ่มชื่น
สำหรับอ๊อฟไม่ได้ช่วยอะไรเลย ทาแล้วเหมือนเคลือบปากไว้เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกถึงความชุ่มชื้นอะไร
น้ำตาจะไหลเพราะราคาแพงมาก เลยหยิบมาทาแค่ข้อศอกหรือหัวเข่าค่อยคุ้มค่าหน่อย
ราคา 500 บาท  ให้ 5/10 คะแนน (ซื้อมานานแล้วค่ะ จำไม่ได้ว่าซื้อที่ไหน)

Ira Natural Lip Balm Hokkaido Milk ลิปบาล์มกลิ่นนมฮอกไกโด กลิ่นหอมนมมากกก ก.ไก่ร้อยตัว
ชอบอยากให้มีรสชาติด้วยจะได้กินไปเลย ทาแล้วเหมือนได้กินนมอัดเม็ด เนื้อลิปบาล์มค่อนข้างเหลว
ไม่มีสี ไม่วาว ให้ความชุ่มชื่นได้ดีมาก ทาแล้วปากเนียนนุ่มเบาสบายปาก ทาลิปทับแล้วไม่เป็นคราบ
ราคา 120 บาท ให้ 8/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อที่ Konvy)

Cocos Coconut Balm ลิปบาล์มมะพร้าวแบรนด์ของคนไทย ถ้าใครที่ชอบกลิ่นมะพร้าวต้องยกให้ตัวนี้เลย
ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน ไม่มี mineral oil และ Cruelty free คนที่แพ้ง่ายใช้ได้
แฟนอ๊อฟชอบมาก ชอบขโมยของอ๊อฟไปทาบ่อยๆ ทาแล้วปากไม่มันเหมือนทาวาสลีน แต่ให้ความชุ่มชื่นได้ดีมาก
ราคา 110 บาท ให้ 9/10 คะแนน (หาซื้อได้ที่ facebook : Buarada )

Cute Press Alice In Wonderland Tint Balm #White Rabbit ลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก
ลาย Alice in Wonderland ซื้อเพราะแพคเกจเลยนะเนี่ย อ๊อฟเลือกตัวสีใสมา มีกลิ่นหอมมะพร้าวอ่อนๆ
ทาแล้วปากเนียนนุ่มดี ไม่เหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื้นระดับกลางๆ แพ้ความน่ารักมากกว่า
ราคา 149 บาท ให้ 7/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจาก 7/11)
Belif Sugar Coat Lip Balm เป็นลิปบาล์มใสๆ มีกลิ่นหอมเลม่อนอ่อนๆ ตัวนี้ทาแล้วปากมันวาวเหมือนมีน้ำตาล
เคลือบที่ริมฝีปาก ความรู้สึกอ๊อฟว่ามันเหนอะเหนอะ เลยไม่ค่อยหยิบมาใช้เท่าไหร่ เรื่องความชุ่มชื่นรู้สึกเฉยๆ
ราคา 540 บาท ให้ 4/10 คะแนน (อ๊อฟจำไม่ได้ว่าซื้อมาจากที่ไหนตัวนี้ซื้อมานานแล้วค่ะ)

LANEIGE Lip Sleeping Mask#Berry ตัวนี้ไม่ต้องบรรยายเยอะเพราะมันดีมาก มาก มากจริงๆ
แต่ก่อนตอนทาลิปแมทปากแห้งบ่อยมาก พอมาใช้ตัวนี้ไม่แห้ง ไม่ลอกไม่เป็นขุย โบกก่อนนอน
ตื่นมาปากนุ่มมากกกก ที่สำคัญมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย
ราคา 700 บาท ให้ 10 10 10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจาก Konvy)

IKAKO Overnight Lipmask 100% Natural Extract  ลิปมาส์กบำรุงปากสูตรเข้มข้น แบรนด์ของคนไทย
ตัวเนื้อลิปเนียนนุ่ม เนื้อลิปค่อนข้างข้นแต่ทาแล้วไม่หนักปาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาก่อนนอนตื่นมาปาก
ยังชุ่มชื้นอยู่เลย ตัวนี้คือดีมาก พอกหนาๆ ก่อนนอน ปากไม่แห้งเวลาทาลิปก็ไม่ตกร่อง
ราคา 200 บาท ให้ 8/10 คะแนน (ซื้อได้ที่ IG : kikakocosmetic)

Vasaline Lip Therapy #Rosy Lip ลิปทรีทเม้นท์จากวาสลีน เพราะความน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มนี้ถึงซื้อมา
ตัวนี้มีสีชมพูระเรื่อๆ และกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ ตลับจิ๋วพกพาง่าย แต่ต้องใช้นิ้วควัก เลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ให้ความชุ่มชื่นนิดหน่อย เหมาะกับวันสบายๆ แต่งหน้าเบาๆ ทาระหว่างวันมากกว่า
ราคา 159 บาท ให้ 7/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจาก 7/11)

Medmaker Pure Petroleum Jelly สูตรสำหรับผิวที่ละเอียดอ่อนของทารก เป็นปิโตรเลี่ยมที่ใช้บำรุง
ได้ทุกส่วนของร่างกาย อ๊อฟว่าดีกว่าวาสลีนกระปุกเหลืองอีก เนื้อเจลใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่หนืด ไม่มันวาว
ให้ความชุ่มชื่นสูง เป็นเหมือนเจลครอบจักรวาลทาได้ทุกส่วน ควรมีติดบ้านไว้เช่นกัน
ราคา 50 บาท ให้ 7/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจาก 7/11)

Lucas Papaw Ointment เป็นบาล์มเอนกประสงค์ เนื้อข้นๆ เหลืองๆ  คือตรงไหนแห้งหยิบมาทาได้หมด
ตัวนี้คือแนะนำควรต้องมี หาซื้อติดไว้เถอะไม่ผิดหวัง หน้าลอก ปากแห้ง เข่าด้าน ตาตุ่มหยาบก็ทาได้หมด
จะโบกปากหรือโบกส้นเท้าหนาๆ ก่อนนอน ตื่นมาก็นุ่มเหมือนกัน เนื้อค่อนข้างหนัก
ไม่เหมาะสำหรับทาตอนเช้า เน้นบำรุงกลางคืนคือดีมาก
ราคา 229 บาท ให้ 10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจาก Konvy)
Puffguin Papaw Ointment บาล์มมะละกอเอนกประสงค์สรรพคุณครอบจักรวาลเหมือน Lucas PaPaw
แต่จะไม่เหนียว ตัวนี้ไม่ใส่น้ำหอม ไม่มีสารกันบูด ผิวแพ้ง่ายบอบบางใช้ได้แน่นอน เป็นเนื้อบาล์มสีขาวขุ่นๆ
เวลาทาจะมันๆ แต่ไม่ได้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ สรรพคุณคือดีงามขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ ที่นำไปใช้
ราคา 375 บาท ให้ 9/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจากวัตสัน)
Pure Paw Paw Oinment บาล์มสารพัดประโยชน์ที่ทำจากมะละกอเช่นเดียวกัน กลิ่นธรรมชาติ (สีขาว)
เป็นบาล์มที่ครอบจักรวาลเช่นเดียวกัน ใช้ทาปากแห้ง ปากแตกเป็นขุย เติมความชุ่มชื่นให้กับริมฝีปาก
บรรเทาการอักเสบได้ ทาแก้ผดผื่นคัน น้ำร้อนลวก  ฯลฯ เนื้อบาล์มสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่น ทาแล้วจะมันๆ ที่ผิว
ราคา 199 บาท ให้ 8/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจาก EVEANDBOY)

Himalaya Lip Balm ซื้อมาเพราะอยากลองของ เคยใช้ยี่ห้อนี้ที่เป็นเจลล้างหน้าแล้วแพ้
เลยขอลองกับลิปบาล์มสักหน่อยละกัน เป็นลิปบาล์มสีขาวขุ่นเนื้อลิปค่อนข้างข้น มีกลิ่นอ่อนๆ ทาแล้วรู้สึกเหมือน
เคลือบปากเอาไว้เลยไม่รู้สึกถึงความชุ่มชื่นเท่าไหร่ทาแล้วสักพักก็หายไป หรือเราจะไม่เหมาะกับยี่ห้อนึงจริงๆ T.T
ราคา 69 บาท ให้ 4/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจาก Konvy)

Beauty Buffet  Born to Be Baby Tint Essence เป็นทิ้นที์ที่มาในรูปแบบลิปกลอส เนื้อทิ้นท์มีสีชมพูอ่อนๆ
ทาไปสักพักจะเข้มขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ค่อนข้างฉ่ำวาว เหมาะกับทาระหว่างวันมากกว่า
เรื่องความชุ่มชื่นสำหรับอ๊อฟรู้สึกเฉยๆแต่เรื่องความฉ่ำและติดทนนานต้องให้เค้าแหละ
ราคา 150 บาท ให้ 5/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อจาก Beauty Buffet Shop สาขาโลตัสรามคำแหง)

Carmex Moisturising Lip Balm #Strawberry ลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก กลิ่นสตรอเบอร์รี่ เนื้อลิปสีเหลืองขุ่นๆ
ได้กลิ่นเหมือนสตอเบอรี่ผสม กับยาหม่อง ทาแล้วเย็นปากมากกก เย็นจนแสบ แถมพอเข้าปากไม่อร่อยด้วย
รสปะแล่มๆ  ทั้งมันและเย็นเลยใช้ต่อไม่ไหว เสียจุย
ราคา 89 บาท ให้ 3/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจากวัตสัน)

สีผึ้งคำน่อย #สีผึ้งชมพูนุท #สีผึ้งกะทิ เป็นสีผึ้งแบรนด์ของคนไทย ถ้าพูดถึงพี่นุช สาวๆ โต๊ะเครื่องแป้งสมัยก่อน
น่าจะเคยรู้จัก หรือเคยใช้สีผึ้งของพี่เค้า จริงๆ อ๊อฟมีแบบเป็นเซต แต่ด้วยความจิ๋วริ๋วของมัน
อีกอันที่เป็นสีผึ้งเนื้อทองเลยหายไป T.T
สีผึ้งชมพูนุท – ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นสูงมาก มีสีชมพูอ่อนๆ พอทาทิ้งเอาไว้จะเริ่มเป็นสีชมพูระเรื่อ ๆ
พร้อมกลิ่มหอมแบบไทย ทาตัวนี้เป็นตัวแรกก่อนทาลิป ปากจะไม่แห้ง ไม่เป็นขุยหรือตกร่อง
สีผึ้งกะทิ – ตัวนี้มีกลิ่นหอมเหมือนขนมมาก เพราะเค้าทำมาจากกะทิสด เนื้อลิปจะเป็นสีเหลืองนวลๆ
ตัวนี้ใช้ทาตอนกลางคืนจะช่วยบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่ม
ราคาเซ็ตละ 389 บาท ให้ 9/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจากเวปของพี่นุช Nuchyshop)

BURTS & BEES Moisturizing Lip Balm #Wild Cherry ลิปบาล์มกลิ่นเชอร์รี่ แต่ทำไมอ๊อฟดมแล้วรู้สึกว่า
กลิ่นมันแปลกๆ เป็นลิปบาล์มที่ทาแล้วปากไม่มันวาวเหมือนแอบแฟนกินกล้วยทอด ให้ความชุ่มชื่นได้ดี
ทาตั้งแต่เช้าบ่ายๆ เย็นๆ ปากยังไม่แห้งเลย
ราคา 280 บาท ให้ 7/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อที่วัตสัน)

Lovella Organics แบรนด์ลิปบำรุงริมฝีปากแบบออร์แกนิค 100% เป็นลิปบาล์มที่ไม่มีสีแต่มีกลิ่นหอมกุหลาบ
อ่อนๆ ตัวลิปบาล์มไม่เหนียวไม่หนืด ทาแล้วให้ความชุ่มชื่นได้ดีมาก ยิ่งวันไหนสวอชลิปมาเยอะๆ ปากลอก
ปากเปื่อย โบกตัวนี้ก่อนนอน ตื่นมาปากเนียนเลย เป็นอีกลิปบาล์มที่ดีที่ชอบอีกยี่ห้อนึง
ราคา 290 บาท ให้ 9/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อที่ IG : @Lovellaorganics)

Blistex Medicated Berry Balm  SPF15 เป็นลิปมันที่มีกลิ่นเบอรี่ กลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ทาแล้วจะเย็นๆ ที่ริมฝีปาก
แต่เย็นไม่มากเท่าไหร่ ทาแล้วไม่ทำให้ปากมันเงา ตัวนี้ทาแล้วให้ความชุ่มชื่นระดับนึงต้องเน้นทาบ่อยๆ
เพราะทาแล้วอยู่ไม่ได้นาน ชอบตรงมี spf นี่แหละ
ราคา 85 บาท ให้ 6/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจากวัตสัน)

Skin plants RoseHip Lipbalm ลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากสูตรสารสกัดจากโรสฮิปออยล์เข้มข้น
มีกลิ่นหอมคล้ายๆกับมายมินท์รสเปปเปอร์มินท์ ทาแล้วรู้สึกเย็นๆ เล็กน้อย ตัวนี้ให้ความรู้สึกชุ่มชื้น​
แต่ไม่เหนอหนะ เบาสบายปากทาแล้วไม่มันปาก อันนี้แฟนชอบใช้
ราคา 168 บาท ให้ 7/10 คะแนน (จำไม่ได้ว่าซื้อที่ไหน)

K.A. Lip Care #strawberry  เป็นลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากกลิ่นสตอเบอรี่ กลิ่นหอมหวานมาก เรื่องความชุ่มชื้น
โอเคระดับนึงไม่ได้มากมาย ทาแล้วได้อารมณ์ปากระเรื่อๆ ธรรมชาติ ทำหายก็ไม่เสียดายอะ
เพราะหาซื้อง่าย เหมาะกับวันสบายๆ ไม่แต่งหน้า
ราคา 45 บาท ให้ 5/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจาก 7/11)

NIVEA Strawberry Shine Lip Care เป็นลิปที่มีสีแดงอ่อนๆ มีกลิ่นหอมสตอเบอรี่ ได้แค่ความชุ่มชื้นนิดหน่อย
แต่ยังไม่ช่วยลดปัญหาแห้งแตกลอกของปาก เอาไว้พกทาระหว่างวันหรือเติมความชุ่มชื่นให้ริมฝีปากมากกว่า
ราคา 60 บาท  ให้ 5/10 คะแนน (ซื้อที่โลตัสตอนลดราคา)
CLINIQUE  Chubby Plump & Shine Liquid Lip Plumping Gloss #02super scarlet เป็นลิปกลอสแบบหมุน
ที่ทาแล้วเบาสบายปากมาก ทาบางๆ จะได้สีแดงระเรื่อๆ สวยแบบผู้ดี ให้ความชุ่มชื้นได้ระดับนึง
แต่ถ้าคนที่ปากแห้งมากๆ ตัวนี้ไม่พอแน่นอน เหมาะกับใช้ระหว่างวันได้ปากแบบอิ่มๆ สุขภาพดี
ราคา 800 บาท ให้ 8/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจากเวป Clinique Thailand)

Mistine Boss Super Balm Lip Glow #01 ซื้อเพราะแม่อั้มนี่แหละ เป็นลิปบาล์มสีชมพูใสๆ เรื่องบำรุงอ๊อฟเฉยๆ
แต่เรื่องโทนสีต้องยอมรับว่าได้สีชมพูสวยจริงๆ เหมาะกับคนที่ไม่ได้แต่งหน้าจัดจ้านอะไร
ถ้าเน้นเรื่องบำรุงอ๊อฟว่าตัวนี้ยังไม่เท่าไหร่ ทาเอามาทาเป็นลิปมันระหว่างวันก็โอเค
ราคา 99 บาท ให้ 6/10 คะแนน (อ๊อฟซื้อมาจากเวป Shopee)

Nars Orgasm After Glow Lip Balm เป็นลิปบาล์มที่แพคเกจสวยงามมว๊ากกก และเป็นเฉดสีเดียวกับบลัชออน
ยอดฮิตของนาร์สนั่นก็คือ สี Orgasm นั่นเอง เป็นลิปบาล์มที่ทาแล้วเบาสบายปากบำรุงนิดหน่อย
แต่ทาแล้วได้สีปากชมพูระเรื่อๆ มีประกายสวยงามมาก สีนี้คือมันดีมากจริงๆ
ราคา 1,090 บาท ให้ 9/10 คะแนน (ทางแบรนด์ให้มาค่ะ)

Dior  Addict Lip Glow #001 Pink ไม่ต้องพูดเยอะเพราะมันดีงามมากจริงๆ ชอบทั้งแพคเกจ สี และความชุ่มชื้น
เป็นลิปที่ทำหน้าที่ได้ดีหมด สีชมพูระเรื่อๆ พออยู่บนปากคือสวยมาก เรื่องความชุ่มชื่นก็ดีสุดๆ
เนื้อลิปคือเนียนนุ่มและหอมมาก เอาเป็นว่ารู้สึกดีทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาทา
ราคา 990 บาท ให้ 10 คะแนนเต็มไปเลย (อ๊อฟซื้อใน IG : Thecosmeticsofficial)

เป็นยังไงกันบ้างคะมีตัวไหนถูกใจเพื่อนๆ กันบ้างหรือเปล่า ถ้าเกิดมีตัวไหนอยากให้อ๊อฟรีวิวหรือตัวไหนน่าใช้
ก็แนะนำอ๊อฟได้เลยนะคะ สำหรับ Blog หน้า อ๊อฟจะรวบรวมไอเท็มอะไรเด็ดๆมารีวิว
อย่าลืมติมตามและให้กำลังใจกันด้วยน้าาา